หน้าเว็บ

อาคารในตลาดแบบเก่า

ผมสนใจตัวอาคารร้านค้าในตลาด ในตัวเมืองแต่ละท้่องที่ครับ เพราะมันบอกประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม หลาย ๆ อย่าง ของคนที่ท้องถิ่นนั้น ๆ ความนิยมในศิลปะ การออกแบบอาคาร ประโยชน์ใช้สอยจากตัวอาคาร มันน่าสนใจ ยิ่งเก่า ๆ ยิ่งดึดดูดสายตา ทำให้เราย้อนนึกคิดไปถึงการดำเนินชีวิต ดำเนินธุรกิจการค้าของคนท้องที่นั้นเมื่อครั้งอดีต


ผมสะดุดตากับตัวอาคารร้านค้านี้มาก ตอนเดินทางไป อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เก่าแก่จนอยากอนุรักษ์เอาไว้ให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ดู ตัวอาคารยังคงสภาพดีมาก ยังใช้งานได้อย่างดี สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง หายากมากในปัจจุบัน ทรงหลังคาเป็นแบบปั้นหยา ใช้กระเบื้อว่าวแผ่นเล็ก ๆ แน่นอนว่าการใช้ไม่ระแนงก็ต้องเยอะตามไปด้วย และใช้ฝีมือและความพยายามของช่างเป็นอย่างยิ่ง 

ผมชอบตรงหลังคา และบานประตู่ ซึ่งเป็นแบบบานพับถี่ ๆ ทำด้วยแผ่นไม้กระดานหลายแผ่นเชื่อมต่อกันด้วยบานพับ ปัจจุบันประตูอย่างนี้ไม่มีใครเขาใช้กันแล้ว จะเป็นก็แบบบานพับเหล็กเล็ก ๆ ซะมากกว่า


ไม่ได้มีความรู้ทางด้านช่างก่อสร้างหรือออกแบบสถาปัตย์หรอกครับ แต่เห็นแล้วชอบ สะดุดตา อยากให้มีการอนุรักษ์เอาไว้ ในแต่ละท้องถิ่นให้มีสักจุดหนึ่งที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ที่มีอยู่ให้นานเท่านาน เพราะมันเป็นเหมือนประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของบ้านเมืองก็ว่้าได้ เป็นประวัติศาสตร์ที่คนรุ่นหลังสามารถจับต้องได้ มองเป็นของจริงได้ ไม่ใช่แค่อ่านเจอในเอกสาร

คติจิตวิทยา

คติจิตวิทยา โดย ดร.วัลลภ  ปิยะมโนธรรม


(คลิกที่ภาพ เพื่ออ่านให้ชัด)







ขอบคุณเวบไซต์ที่เน้นเรื่องการหัวเราะ และจิตวิทยา คือ
ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์




สงสัยวางเหรียญที่พระพุทธรูปทำไม


พบเห็นการนำเหรียญ ไปวางไว้ที่หัตพระพุทธรูป ทีวัดพระบรมธาตุไชยา สุราษฎร์ธานี วางเกือบทุกอง์เลย วัตถุประสงค์เพื่ออะไร

คิดว่าจะเป็นการทำบุญ...เหตุผลง่าย ๆ เพื่อจะ้ได้บุญกุศล มีกินมีใช้ในภายภาคหน้า จำนวนพระพุทธรูปที่มีมากมายในบริเวณที่เรียกว่า ระเบียงคด นี้ จำนวนเหรียญที่ีจะนำมาวางก็มากพอควรด้วย ผมไม้ได้นับว่ามีจำนวนกี่่องค์กันแน่ ไปหลายครั้งก็ไม่เคยนับ..
นอกจากจะวางเหรียญไว้ที่พระแล้ว ยังมีการโยนเหรียญลงในสระน้ำรอบองค์พระบรมเจดีย์ด้วย ผมเห็นเหรียญอยู่ในนั้นเต็มเลย แต่น้ำมากน้อยไม่เท่ากัน ไปแต่ละครั้งน้ำไม่เคยเหมือนกัน บางครั้งก็สะอาดดี แต่บางครั้งก็เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ

ดูน้ำพุ ที่หาดใหญ่



ผ่านไปหาดใหญ่ มักจะแวะเข้าไปเดินเล่น ในสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ยิ่งใหญ่ ตระการตาเหลือเกินครับ มักจะไปให้อาหารปลาที่บึงใหญ่กลางสวน มีศาลาอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ มีการจัดกิจกรรมที่นี่บ่อย มีเวทีบนศาลานี้ใหญ่โตพอสมควร ใหัอาหารปลาเสร็จมักจะเช่าเรือ ปั่นไปกลางน้ำดูน้ำพุขนาดใหญ่ อย่างไกล้ ๆ เสร็จแล้วก็ปั่นต่อไปตามทางน้ำลอดใต้สะพาน ไปเรื่อยๆ เพื่อหาที่ร่มรื่นสงบ ๆ ลอยลำชมบรรยากาศความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียวรอบ ๆ บริเวณ เพลินดีครับ ได้พักผ่อน คลายร้อนได้ดี เพราะรอบ ๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยมากมาย


ไม่อายคนบ้างหรือไง

ดูมันทำ ต่อหน้าต่อตา คนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะแยะ ไม่อายรึไง !!


ทะลึ่งนะพวกเอ็ง !  เจ้าของรถเขายืนดูอยู่ไม่เห็นรึไง ไม่ไปใช่ไหม...นี่..ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน จะเอาไปฟ้องเจ้าอาวาส ในวัดในวาแท้ ๆ 

ลิงพวกนี้ พบเห็นได้บ่อย ในวัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง ในเมืองเลยครับ เยอะแยะมากมาย อาศัยอยู่หลายฝูงด้วยกัน ชอยนักกับการได้รออาหารจากคนที่ผ่านเข้าไปในวัด ชอบซุกซนตามพื้นที่ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่หลังคารถที่เข้าไปจอดเพื่อทำธุระ หรือบนศาลา หรืออะไรก็ตามที่มีคนเข้าไปทำธุระ

พฤติกรรมของพวกมัน ยังไงก็เป็นสัตว์ ไม่ต้องคิดมาก แสดงออกมาอย่างธรรมชาติ อันนี้บนหลังคารถผมเลย เอากันตรงนั้น ประเจิดประเจ้อไม่พอ แถมได้่รอยเล็บของลิงฝากไว้ที่รถด้วย 

ถ้าเข้าไปยืนดูพวกมัน พาเด็ก ๆ ไปดูลิงก็ให้ความเพลิดเพลินดีครับ แต่บางคนที่เข้าไปทำธุระจริง ไม่ต้องการให้ลิงมารบกวนก็อาจจะไม่ชอบบ้างบางเวลา ที่พวกมันแห่กันลงมาเป็นฝูง ล้อมหน้าล้อมหลัง ถ้าเห็นว่าหิ้วอะไรติดไม้ติดมือไปด้วย ระวัง มันจะแย่งไปจากมือได้ง่าย ๆ

เรื่องของหอยขม 3 (ทดลองเลี้ยง)

นมโรงเรียนส่งเสริมเกษตรกรไทย

พม่าจะส่งออกไข่ปลาคาเวียร์


เด็กจีนฮิต มาเรียนต่อเมืองไทย

ช่วงปัจจุบันที่เมืองจีนกำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมากมายนั้น การศึกษาของจีนก็กำลังพัฒนาไปอย่างมาก เกิดการแข่งขันกันเองของสถาบันการศึกษา และเด็ก ๆ เยาวชน ก็ต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เหนือกว่าคนอื่น ๆ เพื่อความได้เปรียบในการได้งานทำ และได้เงินเดือนที่สูงกว่าคนอื่น ๆ 

การเรียนเก่้ง เรียนดี หัวดี ไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน เยาวชนจีนหันไปเรียนต่อต่างประเทศกันมากขึ้น เพราะเพื่อจบมาแล้วจะได้ทำงานที่ดีกว่าเพื่อน ๆ ที่จบจากสถาบันภายในประเทศ เพราะการได้ประสบการณ์ ด้านภาษา ประสบการณ์การเรียนรู้งาน ได้ฝึกงานจากต่างประเทศ ข้อได้เปรียบกับวัฒนธรรมต่างถิ่นของประเทศที่ไปศึกษา ซึ่งเป็นผลดีต่อการที่บริษัทใหญ่ ๆ ข้ามชาติของจีนจะรับเข้าทำงาน 

มหาวิทยาลัยของไทยที่ เด็กจีน นิยมมาเรียนอันดับต้น ๆ คือ ม.อัสสัมชัน(ABAC), ม.บูรพา, ม.ราชภัฎสวนดุสิต เนื่องจากมีหลักสูตรหลายสาขาวิชา ที่รับและสอนนักศึกษาต่างชาติ และสามารถนำวุฒิที่ได้ไปเทียบกับหลักสูตรในจีนได้ง่าย และเป็นหลักสูตรในระดับสากลเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ

การตัดสินใจของชาวจีนที่ส่งลูกหลานมาเรียนในไทย ก็เพราะ ค่าใช้จ่ายไม่แพง อันนี้น่าจะเป็นเหตุผลหลักแรก ๆ ไม่ไกลจากเมืองจีน ได้รับการดูแลเอาใจใส่เหมือนลูกหลานของตนเอง จากผู้ใหญ่หรืออาจารย์ที่สอน และที่สำคัญอีกอย่างเมืองไทยขึ้นชื่อเรื่องการอบรมสั่งสอนให้เด็กรู้จัก และเข้มงวดกับวัิฒนธรรมการเคารพผู้ใหญ่ ไม่เหมือนกับประเทศแถบตะวันตกหรือยุโรป

ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยที่นักศึกษาจีนมาเรียนเมืองไทย ประมาณ 2 แสนบาทต่อปีต่อคน ซึ่งถือว่าไม่แพงสำหรับครอบครัวคนจีนในระดับกลาง และระดับบน ส่วนนักศึกษาจีนที่นิยมมาเรียนในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะมาจากพื้นที่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลยูนนาน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน วัฒนธรรมคล้ายกับไทย โดยเฉพาะทางเหนือของไทยมาก จึงทำให้รู้สึกไม่แตกต่างกันด้านวัฒธรรมมากนัก นักเรียนนักศึกษาสามารถเรียนรู้และเข้าใจได้เร็ว

เกาะกระดาน


เกาะกระดาน ทะเลสวย น้ำใส หาดขาว ปะการังเยอะ ไปง่ายไม่ลำบาก แต่บอกไว้ก่อนต้อนนั่งเรือไปเท่านั้นครับ ไปทางรถ หรือดำำน้ำไปก็ไม่ได้ หรือ นั่งเครื่องไปก็ยาก ขอให้ไปทางเรือก็พอ

อยู่ที่จังหวัดตรัง (คนใต้บางคนออกเสียงไม่ชัด ออกเป็น "ซัง" คือออกเสียง ตร เป็น ซ ) จะไปลงเรือที่ไหนก็ได้ตามชายหาดจากฝั่งของจังหวัด หรือท่าเรือ ไม่ว่าจะเป็น แถวปากเม็ง หาดยาว หรือ กันตัง เอาที่สะดวกแล้วกัน แต่ครั้งที่ผมไป นั่งจาก หาดยาว รู้สึกว่าไกล้ดี

ของสวย ๆ งาม ๆ ที่นี่มีเยอะครับ หาดทรายขาว สวย สะอาดตา ว่าง ๆ ก็ว่ายน้ำ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เพื่อดูปะการังน้ำตื้น พร้อมด้วยหมู่ปลาการ์ตูนสีสันสวยงาม แหวกว่ายอยู่ตามโขดหิน แต่ว่ายให้ดีแล้วกัน ระวังอย่างเอาเท้าไปเหยียบที่พื้นดิน เพราะอาจโดนเข้ากับหนามแหลม ๆ ของหอยเม่นที่มีอยู่เต็มไปหมด แต่ที่ระวังมาก ๆ คือ เท้าของเราไปโดนกับปะการัง ทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งหักเสียหายได้

เกาะกระดานยังเป็นสถานที่จัดงาน แต่งงานใต้สมุทร ที่โด่งดังของจังหวัดตรังด้วย เขาใช้สถานที่ที่นี่แหละ ชายหาด ท้องทะเลบริเวณนี้ทำพิธี จดทะเบียนสมรสกันใต้ท้องทะเล ได้บรรยากาศที่แปลกแหวกแนวไปอีกแบบ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เยอะมากในช่วยวาเลนไทน์

ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ขึ้นค่าครองชีพ


รัฐบาลบอกจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 5% ฟังแล้วตกใจ เพราะขึ้นทีไรกระทบกับผู้ประกอบอาชีพทุกอาชีพ ใช่จะมีผลต่อข้าราชการเท่านั้น ไหนภาคเอกชนก็ออกมาเรียกร้องตามกันอีก ต้องการให้ขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ พวกค้าขายก็แอบขึ้นราคาสินค้า แม้รายได้จากการทำงานของประชนจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไงก็ไม่พออยู่ดี ต่อให้ขึ้น 10% ก็ไม่เพียงพอ

แม้หน่วยงานของรัฐอย่างกระทรวงพานิชย์ จะออกมาควบคุมหรือสอดส่องดูแลเรื่องราคาสินค้า แต่เชื่อเถอะอย่างไรก็ไม่ทันกับพวกค้าขายทั้งหลายหรอก เพราะขึ้นเงินเดือนทุกที ราคาสินค้าขึ้นแล้วไม่เคยลง

ถ้าให้ดีไม่ต้องมาควบคุมราคาสินค้านะ ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกราคา กลไกของตลาด ราคาสินค้าขึ้นก็จะมีคนหันมาค้าขายสินค้าชนิดนั้น ๆ มากขึ้น จะทำให้เกิดการแข่งขัน จากนั้นคนซื้อหรือผู้บริโภคจะสามารถเลือกซื้อได้ เพราะแน่นอนจะต้องมีคนขายของทั้งแพงและถูก แล้วคนจะเลือกซื้ออันไหนก็อยู่ที่ความพอใจของเขา

แต่เชื่อได้เลย คนที่ได้รับการขึ้นเงินเดือนไม่ว่าจะภาคราชการหรือเอกชน แต่สุดท้ายก็ไม่พอจ่าย เพราะเกิดจากหลายสาเหตุ ทุกคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว คือ ความไม่เพียงพอ ห้ามตัวเองไม่ได้ กิเลสในจิตใจที่มีอยู่แล้ว ยิ่งรายได้มากขึ้นก็ลำพองตนเองว่ามีกำลังจะจับจ่ายได้ เห็นอะไรที่อยากได้ก็ซื้อ ก็ผ่อน ในที่สุดขึ้นเงินเดือนกี่ครั้ง ก็ไปจบอยู่ที่การเรียกร้องการขึ้นเงินเดือนครั้งต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุด

น้ำตาลแว่น



น้ำตาลแว่น ทำมาจากน้ำตาลตะโหนด รสชาติอร่อย ไม่หวานเกินไป เป็นน้ำตาลที่นำมากินเล่นได้ ประกอบอาหารก็ได้ ทำขนมก็อร่อย 

เป็นการนำน้ำตาลตะโหนดสด ๆ ที่เก็บมาจากต้น มาเคี่ยวให้เกิดความเข้มข้น เพราะได้เอาน้ำออกไปแล้ว เคี่ยวพอเห็นว่าน้ำตาลเริ่มเป็นสีน้ำตาลเหนียว ๆ ก็เอาลงจากเตา จากนั้นตักมาหยอดลงไปในแว่นที่ได้เตรียมเอาไว้แล้ ซึ่งแว่นนี้ก็ทำจากใบตาลนั่นเอง ม้วนให้เป็นวงกลม จะขนาดใหญ่ หรือเล็กแล้วแต่จะผลิต

ผมมีน้ำตาลแว่นนี้ติดไว้ในตู้เย็นเป็นประจำ แม่มักจะซื้อ มาเก็บไว้ เผื่อว่าจะได้ใช้ทำขนม หรือ ผสมในกับข้าวบางอย่างได้ แต่ไม่วาย ที่จะเอามากัดเล่น กินเล่นตอนที่อยากกินขนม แต่ไม่อยากไปซื้อที่ร้านค้า ก็ใช้กินแทนขนมได้ดีเหมือนกัน 


อะไร ๆ ก็ HD



ได้เห็นโฆษณาเยอะแยะมากมาย เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับมัลติมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น ทีวี ที่มีคำว่า HDTV หรือเครื่องเล่นวีดิโอ กล้องวีดิโอ อุปกรณ์อื่นๆ มีคำว่า HDVD หรือเคยเห็น HDMI และอีกมากมาย ที่มี HD เข้าไปเกีี่ยวข้อง 

HD คำเต็มคือ High Definition พูดง่าย ๆ เป็นภาษาไทยคือ มีความละเอียดสูง หรือคมชัดมากขึ้นนั่นเอง สมจริง ทั้งเสียงทั้งภาพ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง ๆ กันเลย 

รู้ไหมว่า บ้านเราคนที่ยังดูทีวี ระบบอานาล็อค หรือแบบเก่าอยู่ อย่างดูกับทีวีรุ่นเก่า จอนูนโค้งแบบเดิม หรือการใช้ตัวรับสัญญาณ แบบเสาอากาศ ก้างปลา จะดูที่วีไม่ได้ ภายในปี 2558 นี้ ทำไมนะหรือ

เพราะมีการตกลงกันแล้วของกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ในการประชุม Asian Digital Broadcast (ADB) เมื่อปี 2550 ว่าจะร่วมกันพัฒนาระบบการถ่ายทอดกระจายเสียงและภาพ จากเดิมแบบอะนาล็อค มาเป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด และกำหนดเวลาที่แน่นอน ในปี 2558 นี้ที่ำได้กล่าวไปแล้ว

นี่คงถึงเวลาจริง ๆ แล้วหรือที่ผมต้องตระเตรียมเปลี่ยนทีวี ที่เป็นจอโค้งแบบเดิม ที่ยังเหลืออยู่ในบ้านมาเป็นทีวีที่เรียกว่าแบบ HDTV ไม่งั้นใช้การไม่ได้  ดูทีวีไม่ได้ หรืออาจจะดูได้แต่ ภาพที่ออกมาไม่ดี เพราะตอนนี้พวกผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า HD ได้ออกจำหน่ายในบ้านเรามานานพอสมควรแล้ว แต่การนำไปใช้ประโยชน์ยังไม่เต็มที่ เพราะคนยังไม่เข้าใจนะระบบมากมายนัก และระบบการถ่ายทอดสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์ ก็ยังเป็นแบบเดิม (แต่ก็มีบางช่องเพิ่มเป็นระบบดิจิตอลเข้าไปแล้ว)

HDTV แพร่หลายมานานแล้วในประเทศที่พัฒนา อย่างสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น เพราะให้ความคมชัดมากกว่าทีวีรุ่นเก่า เพราะทีวีรุ่นเก่าให้สัญญานแบบอัตราส่วน 4:3 แต่แบบ HD เป็นสัญญาณแบบ 16:9 หรือที่เรารู้จักว่า ไวด์สกรีน นั่นเอง จอกว้างมองเห็นภาพในมุมที่มากขึ้น รายละเอียดมากขึ้น ทำให้ดูสมจริงไปทุกเรื่อง ชวนให้ดึงดูดน่าติดตาม น่าสนใจมากขึ้น

พลังงาน ไฮโดรเจน (Hydrogen)

Hydrogen มาจากคำสองคำคือ  Hydro (น้ำ) กับคำว่า Genes (การสร้าง) ดังนั้นไฮโดรเจนคือ การสร้่างน้ำ 



แม้ว่าอากาศบนโลกเราจะมี ไฮโดรเจน เพียง 1 ใน 14 ส่วน และไม่ได้อยู่ในรูปของก๊าซอิสระ แต่โมเลกุลของไฮโดรเจน แทรกอยู่ในสะสารรอบ ๆ ตัวเรากว่า 70 % 

ได้แก่น้ำที่เราใช้ และดื่มกันอยู่ทุกวัน ในก๊าซธรรมชาติ หรือแม้แต่ในขยะ ถ้าพูดกันจริง ๆ แล้ว ในโลกนี้มีไฮโดรเจนเหลือเฟือ ไม่หมดสิ้น

เราจะใช้พลังงานจากไฮโดรเจนได้อย่างไร เพื่อทดแทนพลังงานจากน้ำมันและแหล่งอื่นๆ  ที่กำลังจะหมดไป 

เดี๋ยวนี้เขามีการผลิตเซลล์เชื้อเพลิงสร้างพลังงานไฟฟ้าจากไฮโดรเจน ซึ่งรูปแบบนี้จะไม่ทิ้งมลภาวะใด ๆ ให้กับโลก เหมือนพลังงานในรูปแบบเก่า ๆ แต่สิ่งที่เหลือจากการใช้ไฮโดรเจนคือ น้ำ 

แต่ที่ดีกว่านั้น คือเราสามารถนำน้ำนั้นมาผลิตไฮโดรเจนได้อีก หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นพลังงานจากไฮโดรเจน ก็ไม่มีสิ้นสุดด้วยเหมือนกัน

ไฮโดรเจน นับเป็นสุดยอดแห่งพลังงาน ที่สะอาด สามารถผลิตจากสิ่งต่าง ๆ มากมายรอบตัวเรา และยังนำกลับมาใช้ใหม่ได้ด้วย จึงถือได้ว่าเป็น "แหล่งพลังงานที่ไม่มีวันสิ้นสุด"

ปลาตะเพียน


ปลาตะเพียน สานด้วยใบลาน หรือใบไม้อื่น ๆ ที่มีลักษณะยาว เช่นใบมะพร้าว เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง ของพื้นที่ทำเกษตรในสมัยก่อน เนื่องด้วยในแหล่งน้ำส่วนใหญ่จะมีปลาตะเพียนอาศัยอยู่ทุกแห่ง คนโบราณจึงเห็นว่าที่ไหนมีปลาตะเพียนแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ 

และมีการพัฒนาใช้ปลาตะเพียนสาน มาแขวนไว้เหนือเปลของเด็กเล็ก ๆ เพื่อเป็นการอวยพรให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์อีกด้วย

โดยทั่วไป โบราณเขาเอาใบลานมาสานเป็นรูปปลาตะเพียน แล้วเอาหลาย ๆ ตัวมาแต่งเป็นโมบาย แขวนไว้ตามบ้านเรือน มีการตกแต่งลวดลายให้สวยงามบ้าง แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่มีการตกแต่งสีสัน เอาสีธรรมชาติ คือ สีของใบไม้ที่นำมาสานนั่นเลย 

เดี๋ยวนี้ หาคนสานปลาตะเพียนได้ยากมาก ยิ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่แทบทำไม่เป็นกันเลย เพราะเขาโตมา ก็ไม่เคยได้เห็นปลาตะเพียนสาน แขวนอยู่เหนือเปลที่เขานอนมาตั้งนานแล้ว จึงไม่ผูกพันธ์กับสัญลักษณ์นี้เท่าไร

ที่ไหนมีการอนุรักษ์ การสานปลาตะเพียนไว้จะดีมาก ๆ โดยเฉพาะในสถานศึกษา เช่นโรงเรียนประถม หรือมัธยม เพราะจะได้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นวงกว้าง ถ้าจะให้ไปจัดกิจกรรมสานปลาตะเพียนกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ  นอกโรงเรียน ทำได้ แต่ไม่กว้างขวางแค่นั้น มีคนเข้าร่วมไม่มากนัก

ลูกโป่งของชอบเด็ก ๆ


ชอบกันจริง เป่าลูกโป่ง จนแก้มป่อง เหนื่อยหอบ ก็ไม่ยอมเลิกรา ซื้อมาเท่านี้ เป่าหมดแล้ว จะไปเอามาอีก ขอตังค์ไปซื้อมาอีก ทั้ง ๆ ที่กินไม่ได้ ก็ยังอยากได้ คิดว่าคงเหมือน ๆ กันล่ะนะ เด็ก ๆ ที่ไหนก็คงอยากจะเล่นลูกโป่ง 

ทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ ลูกโป่งหลากสี สีสันสดใส เป็นต้องซื้อ ไม่ว่าจะไปเจอที่ใด งานวัด งานกาชาด ร้านของชำ หรือ เดินขายในสวนสาธารณะ ชายหาด ต้องติดมือกลับมาจนได้

เดี๋ยวนี้ลูกโป่งไม่ได้มีแค่ลูกโป่งยางอีกต่อไปแล้ว มีที่ทำกับพลาสติก ลูกโป่งแฟนซี ที่บิดไปบิดมาเป็นรูปร่างต่าง ๆ พวกนี้ขายแพงขึ้นไปอีก เด็กยิ่งชอบไปอีก ลูกนึงตั้ง 20 บาท ส่วนที่เป็นพลาสติก แล้วพิมพ์เป็นภาพตัวการ์ตูนต่าง ๆ ด้วยสีสันสวยงาม ก็แพงเข้าไปอีก 40 บาทต่อลูก ซื้อที่งานวัดนะเนี่ย ถ้าเอาเงินไปซื้อขนมได้หลายชิ้นกว่าเยอะ อิ่มด้วย

แต่ถึงอย่างไร ถ้าเด็กร้องอยากได้ลูกโป่ง เป็นอันต้องซื้อให้อยู่เรื่อย เพราะเรารู้ว่า นี่คือธรรมชาติของเขาที่อยากจะเล่นของพวกนี้ ตามวัย ตามอายุ สักพักหนึ่งเขาก็จะเลิกเล่นไปเอง

เรื่องผิดพลาดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดบอลโลก 2010

คนที่ดูบอลโลก 2010 ผ่านทางจานดาวเทียมไม่ว่าจานสีอะไร ดูไม่ได้เลย แม้จะถ่ายทอดผ่านช่องฟรีทีวีแล้วก็ตาม แต่คนที่รับสัญญาณแบบเก่าคือใช้เสาอากาศ (แผงก้างปลา) ดู้ได้ทุกเครื่อง ทำไมเป็นงั้นล่ะ

ก็เพราะลิขสิทธิ์ที่ อาร์เอส ได้รับจาก ฟีฟ่า ที่ระบุไว้ว่า ออกอากาศได้เฉพาะในประเทศไทย ไม่ให้ไปละเมิดสิทธิ์ของประเทศเพื่อนบ้าน ที่บางประเทศการชมฟุตบอลโลกของเขา ต้องเสียเงินในการรับชม 


ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในไทย คือ อาร์เอส ลืมนึกไปว่า วันนี้คนไทยรับชมทีวี ผ่านทางดาวเทียม 50% ที่เหลือเป็นเสาอากาศ และเคเบิ้ลทีวี การรับสัญญานผ่านจากดาวเทียมที่อยู่บนท้องฟ้า ถือว่าคนประเทศไหนก็ดู หรือรับสัญญาณกันได้ แม้จะเป็นช่องทีวีของไทย เป็นเรื่องเลยครับทีนี้ ชาวบ้านประเทศเพื่อนบ้าน ที่ติดจานดาวเทียม ก็สามารถดึงสัญญาณที่ถ่ายทอดในไทยไปดูได้ ก็บอกแล้วว่า ให้ออกอากาศเฉพาะในไทยเท่านั้น 

เรื่องถึงฟีฟ่า ก็โดนบล็อคสัญญานผ่านดาวเทียมเพื่อไม่ให้เพื่อนบ้านดู พาลเอาคนไทยเราที่ติดจานดาวเทียมดูบอลไม่ได้ด้วยเช่นกัน ยกเว้นพวกติดเสาอากาศแบบก้างปลา กับพวกรับกับจานของทรูยังดูได้ (ของทรูต้องเสียตังค์เป็นสมาชิกไง ก็เลยดูได้)

งานนี้ คุณสุรชัย  เชษฐโชติศักดิ์ (เอียฮ้อ) แห่งอาร์เอส มีคนบ่นถึงซะยับเยินเลยโดยเฉพาะในเน็ต แต่รู้ว่านี่เฮียคงไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่ผิดพลาดประการใด ไม่อาจทราบได้ แต่ยังไงก็หาทางดูจนได้ล่ะน่า


ใครกันช่างทำได้

ผมผ่านเข้าไปในเขตอนุรักษ์ฯ แห่งหนึ่งของ จ.พัทลุง เห็นต้นไม้่ในห้วย ในลำธาร มีอาการยืนต้นตายหลายต้น แต่ละต้นไม่ได้เล็ก ๆ อายุหลายปีแล้วด้วย ตายเพราะสาเหตุอะไร ดูในภาพแล้วกัน


ใช่เลย มีการฟันเปลือก และเนื้อไม้บางส่วนออกไปแล้ว ตรงรอบโคนต้นนั่นเอง เพื่อให้มันยืนต้นตาย เสียดายไม้จริง ๆ กว่าจะโตได้ขนาดนี้ ใช้เวลานานหลายปี ให้ร่มเงา ทำให้สมดุลธรรมชาติดีขึ้น แต่ยังมีคนเห็นแก่ตัว เพียงแค่เข้าไปปลูกยาง ทำสวนติดกับตันไม้เหล่านี้ บังเอิญต้นพวกนี้สูงใหญ่ เกิดร่มเงาไปบังแสงที่จะส่องไปถึงยางพาราที่เขาเพิ่งปลูก อายุไม่กี่ปี ทำให้ยางพาราไม่โต ที่จริงต้นยางที่ไม่โตก็เป็นเฉพาะต้นที่อยู่ชิดกับแนวเขตนี้หรอก ไม่กี่ต้นเอง ส่วนอื่นก็ยังเติบโตปกติ

มันอยู่ก้ำกึ่งกันระหว่างพื้นที่เขตอนุรักษ์ฯ กับเขตที่่ชาวบ้านเขาทำมาหากิน แต่คิดว่าบริเวณนี้ไม่น่าจะมีเอกสารสิทธิ์ใด ๆ และต้นไม้ที่โดนกระทำอย่างนี้ ก็อยู่ในพื้นที่ลำธาร  ริมตลิ่ง และในส่วนลึกลงไปจากตลิ่งด้วยซ้ำไป พูดง่ายคืออยู่ในลำธารเก่าที่ไม่มีน้ำไหล มีน้ำเฉพาะหน้าฝนเท่านั้น  ซึ่งถือว่าเป็นทางน้ำสารธารณะประโยชน์ก็ว่าได้ แต่แค่ความจำเป็นของคนบางคน ยอมทำลายทรัพยากรของชาติ ของสารธารณะได้อย่างไม่คิดอะไรเลย 

แม้ต้นไม้ชนิดนี้อาจจะดูไม่มีค่าไม่มีราคา เพราะเนื้อไม้ไม่เป็นที่นิยมของคนทั่วไป ไม่ใช่ไม้เนื้อดี แต่มันก็มีความสำคัญกับระบบนิเวศ กับธรรมชาติมากมายนัก 


พักเหนื่อยริมธาร


พื้นที่ป่าเขาบ้านเรา ช่วงหน้าแล้งก็ยังอุดมสมบูรณ์มากเลยนะ ผมเข้าไปในสวนของคนรู้จัก กว่าจะถึงที่หมายต้องผ่านเส้นทางคดเคี้ยว เลี้ยวเลาะไปตามเส้นทางเล็ก ๆ ทางเดิน เข้าไปได้แค่รถมอเตอร์ไซต์ กับการเดินเท้าเท่านั้น เลียบเส้นทางตามริวห้วยเล็ก ๆ มีน้ำบ้างบางช่วง แต่ส่วนใหญ่จะขาดน้ำในหน้าแล้งอย่างนี้ เนื่องจากขาดฝนมาเป็นเวลานาน

แต่หลาย ๆ จุดที่พอจะมีน้ำ จะมีัลักษณะอย่างที่เห็นในภาพ เป็นแอ่งน้ำ เหมือนกับที่เคยเห็นตามสวนน้ำตกที่เขาจัดเอาไว้ในหน่วยงานต่าง ๆ หรือตามโรงแรมใหญ่ ๆ 

พันธุ์ไม้นานาชนิด ต้นเล็กต้นน้อย ขึ้นปกคลุมรอบบริเวณแอ่งน้ำนี้ ในน้ำก็มีปลาตัวเล็ก ๆ ลูกอ๊อด และสัตว์ที่ไม่รู้จักอาศัยอยู่ ดูแล้วให้ความสดชื่นมาก ๆ แม้ปริมาณน้ำจะไม่มากนัก ยังพอจะเป็นน้ำไหลเลาะตามซอกหินอยู่บ้าง ดูสวยงามยิ่งนัก นี่ล่ะคือธรรมชาติจริง ๆ ที่ไม่มีใครมาปั้นแต่งหรือมาจัดเรียงใหม่ มันอยู่อย่างนี้ของมันมานานแล้ว

เดินทางมาเหนื่อย ๆ  อากาศร้อน ๆ ได้นั่งพักริมธารเล็ก ๆ อย่างนี้ก็แสนสบายกายและใจเป็นอย่างยิ่ง ผมไปที่นี่บ่อย ได้หยุดพักตรงนี้เป็นประจำ ทำให้นึกอยากจัดสวนน้ำตกที่บ้านตามรูปแบบอย่างนี้บ้าง แต่ไม่เคยมีเวลาพอที่จะลงมือทำสักครั้ง หาเวลาว่างไม่ได้เลย ต้องมีธุระอื่น ๆ เข้ามาอยู่เรื่อย ๆ หรือพูดง่าย ๆ ก็อาจจะขี้เกียจด้วย และทำไม่เป็นด้วย แต่ชอบ และอยากได้

สุขภาพช่องปากอยู่ที่คุณ

การกินอาหารที่มีประโยชน์โภชนาการสมดุล เป็นอีกวิธีที่สามารถป้องกันฟันผุและโรคเหงือก ซึ่งเป็นอีกวิธีนอกจากการแปลงฟัน และใช้ไหมขัดฟัน

ขั้นตอนแรกคือ จำกัดของกิน อาหารที่เป็นน้ำตาล และพยายามลดระยะเวลาที่ฟันต้องสัมผัสกับอาหาร ขนม และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

ขั้นตอนต่อไปคือ เลือกกินอาหารที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า มีประโยชน์ต่อสุขภาพปากและฟัน ได้แก่

แคลเซียม  จากอาหารคือ บรอกโคลี่ ผักกาดขาว ผลิตภัณฑ์นม
ประโยชน์ คือ เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและช่วยให้ฟันแข็งแรง ผู้ใหญ่ได้รับแคลเซี่ยมน้อยเกินไปมีโอกาสเป็นโรคเหงือกเพิ่มขึ้น

คาทีชินส์  จากอาหารคือ ชาเขียว ผลทับทิม น้ำทับทิม
ประโยชน์ สารโพลีฟอนอลส์จากชาเขียว โดยเฉพาะสารอีจีซีจี มีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งแบคทีเรีย ต้นเหตุของฟันผุไม่ให้เกาะติดกับผิวฟัน

ใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ  จากอาหาร ขึ้นฉ่าย ผักสลัดใบเขียว
ประโยชน์ ใยอาหารชนิดนี้ช่วยให้เศษอาหารหลุดออกจากร่องฟันและซอกเหงือก

ไลซีน จากอาหาร ถั่วชนิดต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์นม และไข่
ประโยชน์ หากร่างกายขาดกรดอะมิโนชนิดนี้จะทำให้เกิดแผลอักเสบในช่องปาก

วิตามินซี  จากอาหาร  เบอร์รี่ชนิดต่าง ๆ ผลไม้ตระกูลส้ม พริกหยวก
ประโยชน์ นอกจากกระตุ้นให้แผลในช่องปากหายเร็วแล้ว วิตามินซียังเป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน

ภูมิใจมะนาวเป็นลูก

มดแดงอัศจรรย์งานก่อสร้าง


มดแดง แฝงอยู่บนต้นไม้ เอาใบไม้มาทำรัง ก่อสร้างด้วยน้ำพักน้ำแรง ใช้พลังงานจากร่างกาย ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือใด ๆ  มหัศจรรย์มากกับความสมัครสมานสามัคคีของพวกมัน

งานยาก ๆ อย่างการก่อสร้างที่อยู่ มีขนาดมหึมา ใหญ่โตกว่ารูปร่างพวกมันหลายเท่าตัวนัก แค่ชิ้นส่วนวัสดุที่นำมาประกอบเข้าเป็นรัง แต่ละชิ้นเทียบกันไม่ได้เลยกับร่างอันเล็กน้อยของพวกมัน ไม่คิดว่าจะนำมาปะติดปะต่อกันได้เป็นรังที่แข็งแรง

ดูขนาดของใบไม้สิ ใหญ่มาก แรงต้านก็มหาศาล ด้วยความแข็งของก้านใบ แรงต้านจากแรงโน้มถ่วงและแรงลมที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน แต่พวกมันก็มานะบากบั่น ดึงแต่ละใบมารวมกันได้ และเชื่อมต่อกันด้วยกาวธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาเอง เป็นเส้นใยจากร่างกายของพวกมัน ค่อย ๆ เชื่อมต่อไปทีละน้อย ใช้เวลานานมากทีเดียวกว่าจะเสร็จได้สักรัง 

เพื่ออะไร ก็เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเผ่าพันธุ์ ของกลุ่มสังคมของพวกมันเอง รักษาวัฒนธรรมอันเก่าแก่เอาไว้ ในนั้นบรรจุอะไรไว้มากมาย ความเป็นหนึ่งเดียว ความเข้มแข็งของเผ่าพันธุ์ ความรักความผูกพันธ์ของประชากรและผู้สืบเชื้อสายที่จะเกิดมาใหม่ วัฒนธรรมของเผ่าพันธุ์ อยู่ในนี้หมดแล้ว รอวันเพื่อให้เจริญเติบโต ค่อยขยับขยายไปทีละนิดละน้อย

วันนี้รังยังเล็กอยู่ ยังใหม่ แต่อีกไม่นาน พวกมันจะยิ่งใหญ่ในอณาจักรแห่งต้นไม้ต้นนี้ ความใหญ่โตของรังจะมีมากขึ้น พร้อมกับประชากรที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะพวกมันมีความเข้มแข็ง มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ขยันและอดทน ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างดีที่่สุด

ใครขึ้นไปติดป้าย


คุณเคยเห็นป้ายโฆษณาเหล่านี้หรือเปล่า ที่มีข้อความเกี่ยวกับศาสนา มักชอบไปอยู่บนที่สูงมาก ๆ เช่นเสาไฟ้ฟ้า ไม่ใช้เสาไฟเล็กด้วยนะ เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูงที่เข้าหมู่บ้าน หรือชุมชนนะครับ บางทีก็อยู่บนยอดไม้ ต้นไม้สูง ๆ ข้างถนน 

แถวบ้านผมก็เช่นกัน ถามคนทีีบ้านอยู่ำไกล้เสาไฟต้นที่ีมีป้านติดอยู่ เขาก็บอกไม่ถูกว่าใครเอามาติด และมาติดตั้งแต่เมื่อไร ถามดูหลาย ๆ คน หลายที่ เขาก็ไม่เคยเห็นคนมาติด มาตอนไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้สังเกต เห็นอีกทีมีอยู่่แล้ว แปลกมาก

ยอมรับอย่างหนึ่งนะว่า คนที่ขึ้นไปติดป้ายนี้ เก่งมาก ขึ้นผ่านสายไฟชั้นแรกไปได้ก็เสียวแล้ว แต่นี่ขึ้นไปเกือบสุดเสาไฟ ซึ่งชั้นบนคือสายไฟแรงสูง ที่มีสิทธิ์ช็อตตายได้ง่าย ๆ  

มีคนแถวบ้านเขาพูดเล่น ๆ กัน ว่าถ้าจะนับถือคงเป็นการนับถือ คนติดป้าย มากกว่าเนื้อความในป้าย ยอมรับสุดยอดเก่งเลย

เพลงการ์ตูน The Gummy Bear




The Gummy Bear Song เป็นเพลงการ์ตูนที่ทำให้ชีวิตชีวาคักคักมาก ขนาดผมเป็นผู้ใหญ่แล้วยังชอบที่จะฟังเพลงนี้เลย ชอบตรงที่จังหวะสนุกสนาน โดยเนื้อหาอาจจะไม่เข้าใจมากนัก แต่ฟังได้หลายเที่ยวไม่เบื่อ 


แม้แต่เด็ก อย่างลูกสาว ชอบที่สุดในบรรดาเพลงการ์ตูนในยูทูบ (you tube) รองจากการ์ตูนเรื่องมิกกี้เมาส์ ที่ดูได้ทั้งวัน การ์ตูนทางทีวีเด็ก ๆ เลิกดูไปนานแล้ว อุตส่าห์ติดจานดาวเทียม แผ่นวีซีดี ก็ไม่มีเหลือแล้ว เพราะไม่เคยดูนานแล้วเช่นกัน เพื่อน ๆ มาที่บ้าน ลูกก็ยกให้ไปหมดแล้ว ส่วนใหญ่จะดูจากอินเตอร์เน็ตมากกว่า


เพลงกัมมี่แบร์ ฟังทีไรลูกจะเต้นไปด้วย บางวันแม้ไม่สบายก็พยายามโยกตัวไปด้วย ผมว่าเป็นที่จังหวะและเสียงร้องของตัวการ์ตูนที่เข้ากับการรับรู้ของเด็กได้ดี มีการทำหลายเวอร์ชั่นครับคือหลายภาษา ทำให้เด็กทั่วโลกเข้าใจในเนื้อหาได้ไม่ยาก แต่ยกเว้นภาษาไทย และภาษาทางเอเซีย แทบไม่มี

ลองฟังดูกันเองแล้วกัน เป็นวีดิโอจากยูทูบครับ

นั่งดูผู้คน ที่ร้านกาแฟ


วันเสาร์ หรือวันหยุดพักผ่อน ผมมักจะไปนั่งที่ร้านกาแฟสด ในห้างแห่งหนึ่งของจัดหวัด ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก แค่นั่งกินกาแฟ แล้วมองผู้คนผ่านไปผ่านมา สลับกับการอ่านหนังสือ ทั้งหนังสือพิมพ์ และ เรื่องอื่นๆ และอีกอย่างมีร้านหนังสืออยู่ตรงข้าม สะดวกที่จะไปเลือกซื้อแล้วมานั่งอ่านที่นี่

มันรู้สึกถึงความสบายใจ เหมือนได้ไปพักผ่อนตากอากาศ นั่งได้เป็นชั่วโมง เพลินดี มองเห็นคนเดินผ่านไปมา บุคลิกท่าทาง หน้าตา แตกต่างกันไป ดูไปเผื่อเจอคนรู้จัก จะได้เรียกมานั่งคุยกันบ้าง

บางครั้งก็ไปนั่งร้านกาแฟตามปั้มต่าง ๆ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ เพลิน ได้พักผ่อน ได้กินสิ่งที่ชอบ ก็โอเคแล้ว คิดว่าหลายคนคงชอบกินกาแฟ ตามร้านต่าง ๆ เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่บ้านก็มีกาแฟพร้อมสรรพ น้ำร้อน น้ำแข็งก็มี แต่ไม่กิน ยอมจ่ายเงินเพิ่มกับการได้บรรยากาศที่แตกต่าง

เพราะมีคนอย่างผมเยอะพอสมควรละมั้ง ธุรกิจร้านกาแฟจึงได้บูม ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ที่พวกเถ้าแก่ใหม่ต้องการเปิดกิจการ โคยเฉพาะคนรุ่นใหม่ หนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ผมมองว่า เรื่องบรรยากาศของร้านและทำเลมาเป็นอันดับหนึ่งเลยนะ ที่ต้องพิจารณา เรื่องต่อมาคือ รสชาติ และราคา ก็สำคัญไม่แพ้กัน

แต่เดี๋ยวนี้เรื่องรสชาติไม่ค่อยแตกต่าง เพราะส่วนใหญ่เน้นขายกาแฟที่เป็นแบบเฟรนไชส์ คือไม่ต้องกลัวเรื่องส่วนผสม หรือสูตรในการปรุง ร้านไหน ๆ ก็คล้าย ๆ กัน สำคัญอยู่ที่ชื่อเสียงของแบรนด์มากกว่าที่จะดึงดูดนักกินกาแฟได้

จิ้งหรีดกรีดร้อง


ตอนค่ำมืด เคยได้ยินเสียงร้องแหลม ๆ ไหม นั่นคือเสียงของจิ้งหรีด เสียงดีมาก เขาบอกว่า อยากให้เสียงดีเหมือนจิ้งหรีด ต้องกินน้ำค้างตามใบหญ้า น่าจะจริงนะ..เพราะจิ้งหรีดก็กินน้ำที่อยู่ตามใบใม้ ใบหญ้าที่พวกมันอาศัยอยู่นั่นเอง

พวกมันอาศัยอยู่ใกล้คนเรามาก จนบางครั้งลืมไปเลยว่ามีสัตว์พวกนี้อาศัยร่วมอยู่ด้วย เพราะความเคยชินที่ได้ยินแค่เสียงแต่มองไม่ค่อยเห็นตัวตน เพราะมันแอบอยู่ใต้ใบไม้ ใบหญ้า หรือในรู ตอนที่กำลังแผดเสียงอยู่ั้นั้น จะไม่เปิดเ่ผยตัวมากนัก เพราะกลัวเหมือนกัน กลัวตาย กลัวเป็นเหยื่อ จึงแอบส่งเสียงอยู่ใต้กำบัง

เกมส์กีฬาของไทย ที่เอาสัตว์มาเล่นกัน การกัดจิ้งหรีด ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่สนุก ไม่แพ้เกมส์อื่นๆ โดยเฉพาะเด็ก ๆ เพราะหาง่าย ไม่ต้องซื้อด้วยเงิน แอบฟังเสียงร้อง ว่าพวกมันอยู่ตรงไหน ก็่เข้าไปหาตามก้อนหินก้อนดิน ใต้ใบไม้ ต้นหญ้า ก็เจอเอง จากนั้นเอามาจับคู่กัน หาคู่ต่อสู้ที่ขนาดตัวสมน้ำสมเนื้อกันหน่อย จากนั้นก็ปล่อยลงไปในขวดโหล หรือถัง ตัวผู้ด้วยกัน เจอหน้ากัน คิดว่าเป็นศัตรู จะต่อสู้กัน ด้วยการใช้เขี้ยวทำร้ายกัน ฝ่ายไหนวิ่งหนีก่อนถือว่าแพ้ หรือได้รับบาดเจ็บจนกัดต่อไม่ได้ ก็เป็นอันยุติ

ถ้ากัดกันสักพัก พวกมันหยุดนิ่ง ไม่สู้กันแล้ว ยังมีวิธีที่ทรมารมันนิดหน่อย โดยการเอา่เชือกมาผูกที่ตัวหรือคอของมัน จากนั้นก็เหวี่ยงหรือหมุนเชือก หลาย ๆ รอบเข้า มันก็มึน เหมือนคนเมา งวยงง ก็เอาไปวางในขวดโหล ปล่อยให้กัดกับคู่ต่อสู้ ไม่สู้่ก็มีสิทธิ์ตาย ได้ง่าย ๆ ทั้งจากศัตรูตรงหน้า หรือจากน้ำโห ของคนที่จับมันมา

อย่างทรมารสัตว์เลย แค่จับมันมาขังเพื่ออยากฟังเสียงก็บาปพอแล้ว จะเอามันไปกัดกันจนตายอีกทำไม ให้พวกมันส่งเสียงร้องอยู่ในธรรมชาิติ ในที่ที่มันควรจะ่อยู่ จะดีที่สุด

สาเหตุของโรคนิ่ว

เกิดจากการรวมตัวกันของเกลือแร่ที่อยู่ในน้ำปัสสาวะ อาจจะเป็นเกลือฟอสเฟต เกลือคาร์บอเนตของแคลเซี่ยมหรือแมกนีเซี่ยม หรืออาจจะเป็นกรดยูริคหรือแคลเซี่ยมออกซาเลต

โดยปกติน้ำปัสสาวะ สามารถละลายเกลือเหล่านี้ได้ แต่ถ้ามีความไม่สมดุลจากการบริโภคอาหารเกิดขึ้น เกลือพวกนี้จะตกตะกอนและเกาะรวมตัวเป็นก้อนนิ่ว

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดนิ่วได้คือ การดื่มน้ำน้อยเกินไป การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและไขมันมากเกินไป บริโภคผักน้อยไป หรือการบริโภคผักที่มีสารออกซาเลต เช่น ผักโขม ผักติ้ว หน่อไม้ และอาหารที่มียูริคสูง คือ เครื่องในสัตว์ สัตว์ปีก ยอกผ้กอ่อนบางชนิด ขณะเดียวกัน ก็บริโภคโปรตีนน้อยไป ซึ่งคนในภาคอิสานจะเป็นกันมาก

ดังนั้น การดื่มน้ำประปาไม่ได้ทำให้เกิดเป็นนิ่ว แต่การดื่มน้ำมาก ๆ ไม่ว่าจะน้ำประปา หรือน้ำดื่มสะอาดอื่นๆ จะช่วยลดการเป็นนิ่วลงได้

แคลเซี่ยมในนม vs แคลเซี่ยมในน้ำประปา

เพิ่มแคลเซียมในนม...เพิ่มราคา คนไม่ว่า แต่พอน้ำประปามีแคลเซี่ยมบ้าง...กลับหาว่าทำให้เป็นนิ่ว

ประโยคนี้ผมอ่านเจอในวารสารฉบับหนึ่ง เป็นบริษัทดังของโลก ก็คิดในใจมันจะใช่จริงหรือเปล่า พออ่านไปอ่านมา ก็เพิ่งมารู้เหมือนกันว่า แคลเซี่ยม ที่อยู่ในนม กับแคลเซี่ยมในธรรมชาติ ในน้ำ หรือน้ำแร่ต่าง ๆ ก็อันเดียวกัน ถ้าอย่างนั้น ก็มีประโยชน์นะสิ

ลองทำความเข้าใจนิดนึ่งนะ.. ถ้าลองเอาน้ำประปา(ที่ผ่านการบำบัดแล้ว) ผ่านมาตรฐานของการประปา ทั้งการประปานครหลวง (แต่การประปาส่วนภูมิภาคไม่แน่ใจจะเหมือนกันไหม) รองเก็บใส่ถังเอาไว้ ท่านจะเห็นฝ้าบาง ๆ เป็นฝุ่นขาว ๆ ลอยอยู่บนผิวน้ำ เห็นป๊บอาจจะคิดว่าเป็นน้ำไม่สะอาด มีสิ่งสกปรกเจือปน ไม่ควรนำมาดื่ม แต่ความจริงแล้วฝ้าขาว ๆ บาง ๆ ที่เห็น เป็น แคลเซี่ยมคาร์บอเนต เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่แล้วในน้ำธรรมชาติทุกแห่ง เพื่อทำให้น้ำมีความกระด้างขึ้นนั่นเอง (คือไม่ทำให้น้ำเป็นกรด น้ำเป็นกรดเยอะ แสดงว่าแคลเซี่ยมน้อย)

น้ำที่มีฝ้าบาง ๆ แบบนี้ โดยเฉพาะน้ำประปาของการประปานครหลวง เป็นน้ำที่มีมาตรฐานตามองค์การอนามัยโลก ยืนยันว่าไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ

ฝ้าขาว ๆ เกิดจากการที่แคลเซี่ยมคาร์บอเนตในน้ำ ถูกความร้อนจากแสงแดด หรือจากสภาพภายนอก นาน ๆ เข้าเกิดการตกตะกอน หรือการรวมตัวกันเป็นฝุ่นเล็ก ๆ ขาว ๆ บนผิวน้ำ หากน้ำนี้ไปต้มด้วยความร้อนจนเดือด จุดเดือดของน้ำจะทำให้ตะกอนแคลเซี่ยมรวมตัวกัน กลายเป็นตะกรัน จับตามก้นหรือขอบด้านข้างของภาชนะต้ม

บางคนที่น้ำนี้ไปต้ม เจอตะกรันขาว ๆ ติดอยู่คิดว่านี่คือสาเหตุของการเกิดเป็นโรคนิ่ว แต่จริงแล้ว อุณภูมิภายในร่างกายของคนเรา ไม่สูงพอจะทำให้เกิดการรวมกันของแคลเซี่ยมคาร์บอเนตจนกลายเป็นตะกรันเหมือนการต้ม แล้วจะไปอุดตันในร่างกาย

แต่แคลเซี่ยม เป็นธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน เพื่อการเจริญเติบโตของร่างกายด้วยซ้ำไป เหมือนกับการที่รับทราบกันมาว่า ดื่มนมเยอะ ๆ ร่างกายจะได้แข็งแรง จะได้รับแคลเซี่ยมเยอะ ๆ เพื่อทำให้ร่างกายสูงใหญ่ ก็ใช่ว่าจะมีแค่ในนม ในน้ำธรรมชาติก็มีแคลเซียมอยู่แล้ว ตัวเดียวกันกับในนม แต่คนเราไม่กลัวแคลเซี่ยมในนมทำให้เกิดนิ่ว โทษแต่น้ำประปา หรือน้ำธรรมชาติ เพราะความเข้าใจผิดคิดไปเอง


คางคก อร่อยดี


คางคก ผิวตะปุ่มตะป่ำ ดู้แล้วไม่น่าพิศมัย แต่รสชาดิเยี่ยม อร่อยดี..ไม่ได้หมายถึงคางคกที่อาศัยอยู่บริเวณบ้านของเราหรอกนะ แต่นี่เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง รสชาติเปรี้ยวขณะอ่อน หรือแก่ แต่พอไกล้สุก เริ่มมีรสหวานเข้ามาปน สุกหน่อยก็หวาน ๆ เปรี้ยว เนื้อกรอบ แต่ตอนสุกนุ่มลงนิดหน่อย ไม่กรอบมาก  ผิวผลไม่เรียบ ขรุขระ แต่ไม่เหมือนผิวของคางคกที่เป็นสัตว์เสียทีเดียว สีของผลก็เป็นอย่างที่เห็นออกน้ำตาลเหลือง ผิวไม่มันสาก ๆ นิดหน่อย เนื้อในไม่หนามาก แต่มีเมล็ดค่อนข้างใหญ่

ผมเก็บมาจากบ้านคนรู้จัก ตอนไปเที่ยวนราธิวาส แต่บ้านผมไม่มี ไม่เคยเห็น คนที่นั่นเขาเรียกว่า ต้นคางคก ก็เลยเรียกตาม อร่อยดี จิ้มกับเกลือ เปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ ช่วยแก้ง่วงได้ดี กินทั้งเปลือกนี่เลย ไม่ต้องปอก เพราะขืนไปปอกก็ไม่มีเนื้อเหลือให้กินแน่นอน บางมาก

น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้

นวดเพลิน ๆ ยามทำงาน





ตอนนั่งทำงานหน้าคอม รู้สักเมื่อย ง่วง ๆ ทำให้อยากนอน แต่ว่างานยังค้างอยู่ ไม่เสร็จเลย จะกินกาแฟ ก็กินแล้ว ไม่ใช่แก้วเดียว แต่ไม่อยากให้มากไปกว่านี้ ก็เลยต้องหาวิธีการอื่น ๆ ที่น่าจะแก้ได้

มีอุปกรณ์นวดเท้าอยู่อันหนึ่ง ซื้อมานานมากแล้ว ทำด้วยไม้สัก มีลูกกลิ้งที่มีปุ่มเต็มไปหมด หมุนได้ เอามาวางใต้เท้าตอนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เลื่อนเท้าไปมา หน้า-หลัง 

ปุ่มพวกนี้ช่วยกระตุ้นดี ทำให้รู้สึกตื่น ผ่อนคลาย สบาย ความรู้สึกมันแล่นมาถึงส่วนศีรษะเลย  เพราะเส้นประสาทที่เท้าซึ่งมีอยู่มากมาย รับรู้ความรู้สึกนั้น แล้วส่งไปยังสมอง จึงทำให้ร่างกายเราตื่น และสบายตัวได้

นั่งไปนวดไปอยู่อย่างนี้เรื่อย ๆ แต่ถ้าง่วงมาก ๆ ก็ไปนอนดีกว่า จะได้หมดปัญหา

หนังสือ ยังไงก็เป็นมิตร


อ่านมาเยอะแยะมากมาย ตำรา ข่าวสาร นิยาย หรือข้อมูลต่าง ๆ จนบ้างครั้งแทบเบลอ เพราะทนอ่านให้จบ ไม่จบไม่ยอม มันติดพันจริง ๆ โดยเฉพาะนิยาย หรือเรื่องสั้นบางเรื่อง อ่านจนลืมทำอย่างอื่นไปเลย หรือต้องอ่านให้จบภายในวันนี้

บ่อยมากที่ีซื้อหนังสือมาใหม่ อยากอ่านให้ครบทุกเรื่องในวันเดียว แต่ความจริงก็ไม่สามารถทำได้ทุกครั้ง เพราะมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะแยะรออยู่ ทั้งงาน ธุระ หรืออะไรหลายอย่าง

การอ่านหนังสือ หรือการได้อ่านตัวหนังสือ ผ่านสื่ออะไรก็แล้วแต่ ผมว่ามันทำให้เรามีเพื่อน ไม่เหงา ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมากมาย ไม่เว้นแม้แต่หนังสือนิยาย การ์ตูน ในเนื้อหามันจะมีข้อมูลที่ต้องอิงเรื่องจริงอยู่ไม่น้อย รู้ทั้งรู้ว่าเขาแต่งขึ้นมา แต่การจะแต่งหนังสือ หรือนิยายได้สักเรื่องมันต้องมีกระบวนการหาข้อมูลจากรอบ ๆ ด้าน เพื่อนำมาเขียนติดต่อให้เป็นเรื่องราว ไม่ว่าฉาก ลำดับการเกิดเหตุการต่าง คำพูดสนทนาของตัวละคร มันคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคม เรื่องราวรอบตัวจริง หรือเรื่องราวที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมจริง ๆ

เราเคยอ่านนิยายของพวกฝรั่งบ้างไหม เอาที่เขาแปลมาก็ได้ หรือดูหนังต่างประเทศ ดูฉาก การแสดงอารมณ์ วัสดุ เครื่องใช้ที่เขาใช้ มันก็แตกต่างกับบ้านเรา นี่ล่ะของเล็กน้อยอย่างนี้ ถ้าเราอ่านหรือมองเห็นภาพพวกนั้น ก็ทำให้เราได้เรียนรู้แล้ว ว่ามันต่างกับบ้านเรา หรือเป็นข้อมูลที่เราไม่เคยไ้ด้เรียนรู้มาก่อน ก็เหมือนกับเราได้ศึกษาหาความรู้ไปด้วยในตัว

การอ่านหนังสือ หรือศึกษาหาความรู้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่หาไปเพื่อไปทำข้อสอบ จะได้วุฒิการศึกษาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเรียนรู้ด้วยตัวเอง จากการอ่าน การลงมือทำ หรือการดูจากคนอื่น ถือว่าเป็นการศึกษาทั้งหมด

แต่วิธีที่ทำได้ง่ายที่สุด คือการอ่านหนังสือ หรือการเรียนรู้จากสื่อที่สื่อสารด้วยตัวอักษร ยุคปัจจุบันอาจไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อหนังสือ หรือวารสารให้สิ้นเปลืองมากนัก ถ้าคนที่มีอินเตอร์เน็ต นั่นคือแหล่ง หรือคลังแห่งความรู้เลยทีเดียว มีทุกอย่างที่อยากรู้ เพราะมีผู้รู้ที่ต้องการสื่อสารออกมา มากมายอยู่ในนัน คนที่ชอบเขียน มีผลงาน แต่ไม้ได้ตีพิมพ์ ก็มีเยอะแยะ ก็ใช้ช่องทางอินเตอร์เน็ต เป็นที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ออกมาให้คนทั่วไปได้ติดตามกัน


........
หนังสือ, มิตร, เพื่อน, ความรู้, ข้อมูล, ข่าวสาร, ตำรา, ศึกษา, การอ่าน

ยังไงก็รัก



ไ่ม่ว่าจะซนสักแค่ไหน ดื้อเกินไปจนอยากตีให้เจ็บ เพราะต้องการตักเตือนให้เขาได้ดี ทำในสิ่งที่ถูก และเพราะคำว่ารัก ที่มีต่อเขา บางครั้งทำให้เราไม่ปล่อยให้เขาได้ทำได้ตามใจ 

ควรปล่อยให้เขาเป็นไปตามวัย ตามพัฒนาการที่เขาควรจะเป็น อย่าไปปิดกั้นจินตนาการ หรือสิ่งที่เขากล้าแสดงออกมา แม้จะดูไม่เหมาะสมในสายตาเรา ดูเขาก่อน ถ้าไม่เหมาะอย่างไร ค่อยว่ากัน จะตักเตือน จะสอนเขา ก็เอาเหตุผล อย่าเอาอารมณ์ มาเป็นตัวหลัก

บ่อยครั้งที่ใช้ความรู้สึกตัวเอง ใช้อารมณ์ ไปว่ากล่าว ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว ความนึกคิดของเด็กขนาดนี้ ไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไรมาก เขาเป็นอย่างนี้เพราะไร้เดียงสา เขาดื้อ เขาซน เอาแต่ใจ เพราะวุฒิภาวะก็เป็นไปตามวัย 

แต่ผู้ใหญ่เลือกที่จะเอาความถูกต้องที่ผู้ใหญ่ควรปฏิบัติไปใช้กับเด็ก อย่างนี้น่าจะใช้ไ่ม่ได้ ควรปล่อยให้เขาลองผิดลองถูกด้วยตนเองบ้าง เขาจะจำและระลึกได้อยู่เสมอ ถ้ารู้ว่านั่นคือสิ่งผิด ทำแล้วมีผลกระทบกับเขา หรือคนรอบข้าง จะจำไปจนโตเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะดีไม่ดี ยังไงก็รัก

คุณรู้ไหม รักคืออะไร

คุณรู้ไหมครับว่า รักคืออะไร...เชิญอ่านเรื่องราวด้านล่างเลย

เรื่องราวความรักอันเหลือเชื่อปรากฏขึ้น ที่ประเทศจีนเมื่อเร็วๆ นี้ และได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก

เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งกับหญิงที่มีอายุมากกว่า ผู้ซึ่งหลีกหนีความมีชีวิต และรักกันอย่างสงบสุขกว่าครึ่งศตวรรษ



ชายอายุ 70 ปี ผู้ซึ่งสลักหินเป็นบันไดด้วยมือ มากกว่า 6,000 ขั้น ปีนภูเขาไปหาคู่รักอายุ 80 ปี ซึ่งจากเขาไปแล้ว เพื่อไปยังถ้ำซึ่งเป็นรังรักของพวกเขามากว่า 50 ปี

เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว หลิว โกวเจียง ชายหนุ่มวัย 19 ตกหลุมรักแม่หม้ายลูกติดนาม ซู เฉากวิน


ดังนิยายโรมิโอกับจูเลียตอันเลื่องชื่อ ของเชคเปีย ผองเพื่อนและญาติๆ กล่าวขวัญถือความสัมพันธ์อันเนื่องจากความต่างของวัย กับความจริงที่ว่า ซู มีลูกแล้ว ในขณะนั้น เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมและรับไม่ได้ ที่ชายหนุ่มจะรักกับผู้หญิงที่แก่กว่า เพื่อหลีกหนีพวกปากตลาดและการดูถูก ของสังคม ทั้งคู่ตัดสินใจพากันหนีและอาศัยอยู่ในถ้ำที่ เจียงจิน เมืองชนบททางตอนใต้ของเขตปกครองตนเอง ชงควิน


ช่วงเริ่มต้นชีวิตไม่มีอะไร ไม่มีไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งอาหาร ทั้งคู่กินหญ้าและพืชหัวที่พบแถวๆ ภูเขา และหลิวก็ได้ประดิษฐ์ตะเกียงน้ำมันก๊าด เพื่อให้แสงสว่าง รวมทั้งนำทางชีวิต

ซู รู้สึกว่าเขาผูกมัดหลิว จำกัดอิสระภาพของหลิว เธอถามคำถามซ้ำๆ กับหลิวว่า หลิว เธอเสียใจมั้ย” “ตราบเท่าที่เรา ขยัน ชีวิตเราจะดีขึ้นคือคำตอบที่ออกจากปากของหลิวเสมอ เมื่อเจอคำถาม
  
ในปีที่สองของชีวิต บนภูเขา หลิวเริ่มแกะสลักบันได และทำอย่างนั้นต่อเนื่องมากว่า 50 ปี เพื่อที่จะให้คู่ชีวิตของเขาลงจากภูเขาได้โดยง่าย

ครึ่งศตวรรษต่อมา ปี 2001 นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งได้ค้นพบป่าและต้องประหลาดใจที่พบ คู่รักวัยชรา และบันไดที่สลักด้วยมือกว่า 6,000 ขั้น หลิว หมิงเส็ง หนึ่งในลูกทั้งเจ็ดกล่าวว่า พ่อ-แม่ของเรารักกันมาก พวกเขาอาศัยอยู่อย่างสันโดษมากว่า 50 ปี และไม่เคยทิ้งกันแม้แต่วันเดียว บันไดที่สลักด้วยมือกว่า 6,000 ขั้นที่มานะทำขึ้น หลายปี เพื่อความสบายของแม่ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ลงจากภูเขาบ่อยเช่นนั้น


คู่รักอาศัย อยู่อย่างสงบมากว่า 50 ปี กระทั่งสัปดาห์ที่แล้ว หลิว ชายวัย 72 ในวันนี้ กลับจากงานประจำวันที่ไร่จากนั้นก็ทรุด กายลง ซู นั่งและสวดมนต์กับสามี จากนั้น หลิวก็จากไปภายในอ้อมกอดของ ภรรยา ดังที่เห็นความรักของหลิวที่มีต่อซู ไม่มีใครสามารถแกะมือของ เขาออกจากมือภรรยาได้ แม้กระทั่งหลังเขาตาย


คุณสัญญา ว่าจะดูแลฉัน คุณจะอยู่กับฉันเสมอจนถึงวันที่ฉันตาย แต่ตอนนี้คุณจากฉันไปก่อน ฉันจะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีคุณ

เธอ ใช้เวลาหลายวัน พูดประโยคซ้ำๆ แผ่ว ๆ และสัมผัสโลงศพของสามี ด้วยน้ำตานองหน้า


ในปี 2006 เรื่องราวของพวกเขา กลายมาเป็นเรื่องรักติดอันดับทอปเท็น ในประเทศจีน ซึ่งรวบรวมโดย Chinese Women Weekly รัฐบาลท้องถิ่นตัดสินใจอนุรักษ์ บันไดแห่งความรักและรังรักของพวกเขาเป็นพิพิธภัณฑ์ ยังผล ให้เรื่องราวแห่งความรักนี้มีอยู่ตลอดไป
 


 ............................

ข้อมูลนี้ ได้จาก fw mail เขาส่งต่อ ๆ กันมา อ่านแล้วให้ข้อคิดกับคนมีชีวิตคู่อย่างผมไ้ด้ดีมาก ก็เลยนำมาลง ให้ได้อ่านกัน ดีกว่าเก็บไว้ใน e-mail อย่างเดียว