![]() |
น้ำท่วมตัวเมืองเก่าภูเก็ต (ภาพจากถนนเทพกระษัตรี) |
หน้าเว็บ
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บ้านเมือง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บ้านเมือง แสดงบทความทั้งหมด
คำทำนายสึนามิ 30 ธ.ค 53 (tsunami thailand)

เราจะมาติดตามข่าวกันทั้งวัน ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ จะทยอยป้อนข้อมูลรายงานข่าวเข้ามาเรื่อย ๆ ครับ จริงไม่จริงอย่างไรจะได้รู้กัน
น้ำท่วมลานพระบรมรูปทรงม้า
ยุคปัจจุบันอย่าน้อยใจไปเลยครับที่เกิดภาวะน้ำท่วมบ่อย ๆ หรือหนักขึ้น ดูภาพนี้แล้วนึกเสียว่าที่ไหน สมัยไหน ก็เจอเหมือนกันครับ ไม่เว้นแม้แต่พระที่นั่งอนันตสมาคม ย้อนยุคกันสักหน่อยแล้วกันเป็นเหตุการณ์บ้านเมืองเราเมื่อปี พ.ศ. 2485
วัดแองเจลิน่า โจลี่ (Angelina Jolie) หรือปราสาทตาำพรหม
วัดแองเจลิน่า โจลี่ (Angelina Jolie) หรือปราสาทตาำพรหม
น้ำท่วมหาดใหญ่ ประสบการณ์ช่วยได้
ประสบการณ์ช่วยสอนให้คนสร้างความจดจำและเตรียมตัวพร้อมตั้งรับกับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วไ้ด้ ผมเองเคยเจอปัญหาน้ำท่่วมใหญ่เมื่อปี43 มาในปีนี้ 53 ท่วมหนักอีกรอบไม่แพ้กันเลย สภาพน้ำที่มีระดับที่สูงจนน่าตกใจ เห็นแล้วใจคว่ำใจหายกันไปตามกัน ความเสียหายเกิดขึ้นมากมาย แต่ปีนี้แม้จะรุนแรงแต่การตั้งรับก็ดูเหมือนจะพร้อมกว่ามาก ปี 43 น้ำมามากเกินคาดหมายและไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อมจะรับสะภาวะที่รุนแรง จนเกิดความเสียหายหนักโดยเฉพาะกับห้างร้านต่าง ๆ ผู้ค้าขายทั้งเล็กใหญ่เสียหายเกือบจะสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะข้าวของไม่สามารถเก็บออกมาจากร้านได้ โรงแรมต่าง ๆ และการท่องเที่ยวเสียหายหนัก ทรัพย์สินต่างๆ ต้องเอาออกมาขายเป็นสินค้าราคาถูกจนมองไม่เห็นว่าจะได้ทุนคืนมาจากไหนหลังจากน้ำหายไปแล้ว แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ข้าวของเสียหายอยู่เฉยๆ แบบไม่มีค่าอะไรเลย ขายต่ำกว่าทุนก็ยังดีกว่า
สายไฟอยู่บนหัวเรานี่เอง
บ้านเมืองเราเดี๋ยวนี้เจริญรุดหน้าไปมาก ไปที่ไหนก็มีไฟฟ้าใช้ เขาบอกว่าดูความเจริญที่ใดพัฒนาก็ดูได้จากเสาไฟและน้ำประปา แสดงว่าที่นั่นระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานดีพอสมควร มันบ่งบอกถึงศักยภาพของบ้านเมืองในเรื่องการพัฒนาประเทศได้ระดับหนึ่ง
รถเกราะเพื่อนร่วมทางของพวกเรา
มันไม่แปลกหรอกถ้าอยู่ในค่ายทหาร ไม่แปลกถ้าอยู่ในสนามรบ แต่นี่อยู่บนถนนทั่วไปที่ผู้คนสัญจรไปมากันอย่างปกติจนดูไปก็เหมือนเพื่อนร่วมทางคันหนึ่ง ที่ว่าแปลกอาจเป็นเพราะผมเองไม่ใช่คนในพื้นที่ก็ได้ที่บังเอิญไปเห็นรถทหารที่มีอาวุธยุทโธปกรครบครันวิ่งอยู่บนเส้นทางเีดียวกัน รถหุ้มเกราะหรือรถประเภทอย่างนี้หาดูได้ง่ายในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนหลายคนอาจจะคุ้นจนชินตา แต่ผมคนต่างพื้นที่เห็นแล้วตื่นเต้นครับแต่ก็ยังอุ่นใจว่ามีการตรวจตราที่เข้มข้น
เสน่ห์รถไม้ในภูเก็ต(โพ้ถ้อง)
![]() |
รถไม้กับอาคารเก่า ๆ ในตัวเมืองภูเก็ตเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดี |
เอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ตอีกอย่างหนึ่ง คือรถโดยสาร หรือรถสองแถว ที่เป็นรถไม้ หรือท้องถิ่นนี้เขาเรียก โพ้ถ้อง (ตัวถังทั้งหมดเป็นไม้)ยกเว้นส่วนหัวรถที่เป็นเหล็ก....
ในภาคใต้เกือบทุกที่นะ เคยมีรถไม้โดยสารแบบนี้มานมนานแล้ว แต่ก็เริ่มจากหายไปมาก เหลืออยู่เพียงไม่กีแห่งที่ยังใช้อย่างเป็นจริงเป็นจัง อย่างเช่น จ.พังงา, ระนอง และภูเก็ตก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่อนุรักษ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี และเป็นสีสันให้นักท่่องเที่ยวต่างชาติได้จดจำได้ดีด้วย
แต่ก็เริ่มมีการดัดแปลงรูปแบบไปบ้าง โดยรถรุ่นใหม่ ๆ จะมีรูปร่างใหญ่ขึ้น บางคันใช้โครงสร้างของรถบรรทุกใหญ่อย่างรถหกล้อมาทำเป็นรถไม้ เพราะผู้โดยสารในเส้นทางมีมาก หรือนำไปใช้ในหน่วยงาน ในโรงแรมเพื่อใช้รับส่งนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าของตนเอง ไม่รับนักเดินทางทั่วไป
มันโล่งโปร่งสบายนะ รถแบบนี้ ได้บรรยากาศ ได้กลิ่นอายของพื้นที่นั้น ๆ แท้ ๆ ทั้งลมที่ีโกรกเข้ามาพร้อมกับกลิ่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นทะเล กลิ่นควันรถ กลิ่นอายดิน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่รถแล่นผ่านไป มันต่างกันมากกับการนั่งในรถที่ปรับอากาศ เพราะผู้โดยสารมีทั้่งคนพื้นที่ นักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ขายที่นำสินค้าหรือสิ่งของต่าง ๆ ขึ้นมาบนรถ บางครั้งก็ส่งกลิ่นหอมอย่างพวกผลไม้ หรือในบางทีก็กลิ่นแปลก ๆ ของอาหารพื้นเมือง หรือกลิ่นปลาทั้งปลาสดและปลาเค็ม นี่คือบรรยากาศแท้ ๆ ของรถโดยสารที่เปิดโล่งแบบนี้
![]() |
บรรยากาศของการโดยสารไปกับรถไม้ ทั้งคนและสัมภาระ |
หมุดเขตแดนไทย-กัมพูชา
Facebook | รูปภาพของ Parnthep Pourpongpan - รูปภาพบนกระดาน
มีการเปลี่ยนแปลงหมุดตามแนวเขตแดนไทย จากเดิมเขียนไว้ว่า "เขตแดนไทย-กัมพูชา" เปลี่ยนเป็น "หมุดขยายโครงข่าย" เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง ทำไมถึงเปลี่ยน แล้วของเดิมผิด หรือหถูกกันแน่ ถึงต้องเปลี่ยนเป็นหมุดใหม่
มีการเปลี่ยนแปลงหมุดตามแนวเขตแดนไทย จากเดิมเขียนไว้ว่า "เขตแดนไทย-กัมพูชา" เปลี่ยนเป็น "หมุดขยายโครงข่าย" เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง ทำไมถึงเปลี่ยน แล้วของเดิมผิด หรือหถูกกันแน่ ถึงต้องเปลี่ยนเป็นหมุดใหม่
หมุดเก่าปักไว้เมื่อวันที่ 11 เดือน มิย. 2550 หมุดใหม่ก็บันทึกบนหัวหมุดว่า 11 มิย. 2550 เช่นกัน ถ้าทางผู้เกีี่ยวข้องทำหมุดนี้เพื่อใช้ในการทำ ระบบ GPS ทำไมจึงต้องเขียนว่า "เขตแดนไทย-กัมพูชา" แล้วทำไมไม่เขียนว่า "หมุดขยายโครงข่าย" ตั้งแต่ต้น เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่นะ ที่จะเอาหมุดเขตแดนมาปักไว้ในเขตประเทศตัวเอง ห่างจากเขตแดนจริง ๆ ถึง 12.5 กิโลเมตร
ทหารชายแดนใต้
หลายครั้งที่เดินทางไปทางชายแดนใต้ โดยเฉพาะสามจังหวัดที่ออกข่าวทางทีวีอยู่บ่อย ๆ มีเหตุการณ์เรียกได้ว่าเป็นรายวันกันเลยก็ว่าได้ ขับรถไปมองรอบ ๆ ตื่นเต้นครับ..เมื่อเห็นหรือผ่านด่านตรวจของทหาร หรือตำรวจ หรือ อาสาสมัครต่างๆ
ไม่ได้กลัวหรอกครับ เพราะเห็นซะชินแล้ว แต่ตื่นเต้นว่าจะไ้ด้เจอคนบ้านเดียวกัน ที่ไปปฏิบัติหน้าที่อยู่แถวนั้น ทั้งตำรวจ ทหาร ทหารพราน หรือข้าราชการหน่วยงานอื่นๆ
เห็นใจครับ เขาทำงานกันจริง ๆ จัง ๆ เต็มหน้าที่เต็มกำลังกันเลย เพราะฉะนั้นเวลาเขากลับบ้านไปพักผ่อน อย่าไปว่าเขานะครับ ถ้าจะปลดปล่อยหรือระบายความรู้่สึก ไม่ว่าจะกับคนที่บ้าน กับเพื่อน หรือในวงเหล้า เพราะผมได้ฟังมาบ่อยครับ จากปากของคนที่ทำงานในพื้นทีี่
ตอนทำงานอยู่เครียดมาก ไม่รู้จะรักษาชีวิตได้นานแค่ไหน ระแวดระวังอย่างมาก ทุกวินาทีคือชีวิต และความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งได้อยู่ในชุดหรือเครื่องแต่งกายที่บอกหน่วยงานสังกัด ยิ่้งเป็นที่เพ่งเล็ง เป็นเป้าหมายชัดเจนมากสำหรับผู้ไม่หวังดี ถ้าไม่ได้อยู่ในเวลาทำงาน ทหารเหล่้านี้จะแต่งตัวเหมือนอยู่กับบ้าน แบบสบาย ๆ ให้กลมกลืนกับคนในพื้นที่
ไม่ว่ากันครับ ในยามที่อยากพักผ่อน ทำตัวตามสบายเลยครับ เพราะรู้ดีว่าความกดดันมันเป็นอย่างไร มันเป็นสถานการณ์จริง ๆ ครับ ไม่ใช่เป็นการฝึกเหมือนตอนฝึกภาคสนามแน่นอน
ตลอดสาย ตลอดเส้นทาง จะมีสักกี่ด่านตรวจ ผมไม่เคยบ่นเลย ขับรถไปยิ่งรู้สึกอุ่นใจขึ้น เพราะนั่นคือที่พึ่งของผู้สัญจรไปมาบนท้องถนนในพื้นที่แห่งนั้นครับ
คำพูด มัดตัวแกนนำเสื้อแดง
ช่วงนี้ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวการเมืองอยู่บ้างแต่น้อยกว่าตอนที่เขาเผาเมือง ช่วงนั้นดูทุกวัน อินเตอร์เน็ตคลิกทั้งวัน เฉพาะเว็บบล็อกส่วนตัวอีกอันหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับข่าวสถานการ คนเข้าไปดูเยอะมาก 3 วัน เข้าไปดูตั้งหมื่นกว่า
ช่วงนี้ข่าวเหตุการณ์มันสงบลงแล้ว แต่มีครุกรุ่นอยู่บ้างเป็นบางพื้นที่ ต่างกับข่าว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นอยู่อย่างนั้น จนเกิดความเคยชินของผู้คนต่อข่าวคราว เกิดเหตุรุนแรงเกือบทุกวัน แต่ดูเหมือนจะไม่ตื่นเต้น หรืออยากติดตามอีกแล้ว เพราะเหมือนกับมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย กี่รัฐบาลมาแล้ว ก็เหมือนเดิม
แกนนำเสื้อแดงเข้ามอบตัว ทีนี้ก็โดนกันทุกคน หลายข้อหาเลยล่ะ แต่ไม่รู้เขาจะตัดสินออกมาอย่างไร ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน แต่เท่าที่เห็นสื่อหลายสำนักพยายามขุดหาข้อมูลมานำเสนอเป็นแนวทางให้ประชาชนพอจะรู้ข้อมูล และฐานความผิดของกลุ่มเสื้อแดงกันแล้ว ทั้งที่ศาล หรือผู้มีอำนาจยังไม่ได้ตัดสินอะไรออกมา
คำพูดแกนนำเสื้อแดง มัดตัว เป็นหลักฐานการพิจารณาความผิด บังเอิญเข้าไปอ่านในเว็บของ manager online พูดง่าย ๆ คือ ASTV นั่นเอง เขาวิเคราะห์ได้ดีพอสมควร (คู่ฟัดคู่แค้นของเสื้อแดงมานาน) ข้อมูลต่าง ๆ ดูกันเองแล้วกัน ใช้วิจารนญาณของตัวเองนะครับ
.......................................................................
เสื้อแดง, แกนนำ, เผา, หลักฐาน, คำพูด, วิดีโอ, ชุมนุม
เผาเมือง-ก่อการร้าย บัญญัติศัพท์ใหม่ ในพจนานุกรม
ราชบัณฑิตเตรียมบัญญัติศัพท์เหตุเผาเมือง สุ่มเสี่ยง –ก่อการร้าย ในพจนานุกรมศัพท์ใหม่ เพื่อให้คนยุคต่อไปได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของชาติ ไว้ใช้ศึกษาหากเกิดเหตุการณ์รูปแบบดังกล่าวขึ้นมาอีก....
เมื่อวัน ที่ 25 พ.ค. ศ.กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตยสถาน และนายกสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมคำศัพท์ใหม่ ได้ติดตามเหตุการณ์ การความไม่สงบทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ เพื่อจัดเก็บข้อมูลคำศัพท์ใหม่ และคำศัพท์ที่มีการใช้ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งมีทั้ง คำใหม่ และเป็นการนำคำมาผสมกัน อาทิ สุ่มเสี่ยง เป็นคำใหม่ที่ยังไม่ได้บัญญัติในพจนานุกรม โดยรัฐบาลได้นำมาใช้ช่วงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งความหมาย คือ การระบุถึงพื้นที่ที่เห็นว่ามีอันตรายแต่ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
ศ.กิตติคุณ ดร.กาญจนา กล่าวต่อไปว่า สำหรับคำว่า ก่อการร้าย ก็ยังไม่ได้บัญญัติไว้ในพจนานุกรมเช่นกัน และมีความหมายที่กว้าง ที่ผ่านมามักใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศและเหตุการณ์ใหญ่ แต่ครั้งนี้รัฐบาลนำมาใช้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ดังนั้น เมื่อรัฐบาลนำคำเหล่านี้มาใช้ต่อสาธารณชน ทางราชบัณฑิต เห็นว่า ควรมีการให้ความหมายที่จัดเจน การใช้ที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ส่วนคำว่า ขอคืนพื้นที่ และกระชับพื้นที่ เป็นการนำคำมาผสมกัน ซึ่งบางคำบัญญัติไว้อยู่แล้ว เช่น คำว่ากระชับ เป็นต้น ทั้งนี้ ราชบัณฑิตจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะบัญญัติคำว่า ขอคืนพื้นที่ และกระชับพื้นที่ ไว้ในพจนานุกรมคำศัพท์ใหม่หรือไม่
ด้าน นางสุรีย์รัตน์ วงศ์เสงี่ยม ผอ.สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร กล่าวถึงการเตรียมการจัดทำจดหมายเหตุแห่งชาติบันทึกเหตุการณ์การความไม่สงบ ทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆว่า ในเบื้องต้น ตนจะหารือกับนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร ว่า จะบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ในจดหมายเหตุประเทศไทย หรือจะแยกเป็นเล่มเฉพาะ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้ใช้คำศัพท์ใหม่ๆหลายคำ เช่น แผนปรองดองแห่งชาติ เยียวยา กระชับพื้นที่ การขอคืนพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งจะต้องบันทึกให้คนรุ่นได้เห็นว่า การกระชับพื้นที่รัฐบาลดำเนินการอย่างไร มีการแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองแบบไหน ด้วยวิธีการใด เพื่อให้คนยุคต่อไปได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของชาติ ไว้ใช้ศึกษาหากเกิดเหตุการณ์รูปแบบดังกล่าวขึ้นมาอีก
“ขณะนี้ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ได้จัดทำหนังสือขอข้อมูลจากสื่อมวลชนทุกแขนง หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เพื่อจัดทำจดหมายเหตุดังกล่าวแล้ว และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนส่งให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษาต่อไป”ผอ.สำนัก หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กล่าว
.................................
ข่าว ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/edu/85179
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)