ประมาณปี 56 นี้ พม่าจะมีสินค้าส่งออกที่แปลกแหวกแนวกว่าชาวบ้านในภูมิภาคแน่นอน นั่นคือไข่ของปลาสเตอร์เจียน(Sturgion) เพื่อนำไปทำเป็นไข่ปลาคาเวียร์(Caviar) สำหรับเป็นอาหารว่างของนักกินมีเงิน คนรวยทั่วโลก ขายกันกิโลกรัมละ 1,500-2,000 ดอลลาร์ ส่วนเนื้อปลาราคา 60 ดอลล่าร์ต่อกิโลกรัม
โดยมีนักลงทุนจากเวียตนามที่เดิมทีก็ผลิตไข่ดิบ และเนื้อปลาจากปลาสเตอร์เจียนเพื่อส่งออกอยู่แล้ว ได้มองเห็นว่าภูมิประเทศบางพื้นที่ของพม่าเหมาะต่อการเพาะเลี้ยงปลาชนิดนี้เป็นอย่างมาก เขาบอกว่า สเตอร์เจียน จะชอบอยู่ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,000 เมตร ในน้ำที่อุณหภูมิ 12-16 องศาเซลเซียส ปลา 1 ตัวให้ไข่ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อปี
บริษัทในเครือวินาชินหวุงเต่า (Vinashin Vung Tao) ของเวียตนาม เข้าร่วมทุนกับบริษัทปาเลนาดี (Pale Nadi) ของพม่า เลี้ยงสเตอร์เจียนโดยใช้เทคนิคการเพาะเลี้ยงในน้ำเย็น ที่เวียดนามประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยปล่อยลูกปลาสเตอร์เจียนในบึงเบลูซอง (Belu Chaung) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำปิด ในหุบเขาที่อากาศหนาวจัด ซึ่งอยู่ไกล้ ๆ กับทางตอนใต้ของรัฐฉาน ของจีน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น