หน้าเว็บ

กิ๊ก..เฟสบุ๊ก (Facebook) ตอน 3

" น่าคิด..ดูแปลกมาก ถ้าที่เล่ามาเป็นความจริง มีความเป็นไปได้ว่าแฟนมึงสนใจคนนั้นจริง.."  

" ไม่อยากคิดมากไปกว่านี้ ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ ว่าจะมาใจแตกเอาตอนอายุเท่านี้ ตอนสาว ๆ ไม่เห็นจะเป็นอย่างนี้เลย..หรือว่ากูไม่ดีจริง ๆ วะ."  เพื่อนบ่นน้อยใจ

" ไม่ใช่หรอก ก็เห็นพวกมึงก็รักกันดีจะตาย อาจจะไม่มีอะไรอย่างที่คิดก็ได้..มึงอย่าตีโพยตีพายไปมากสิ.."  ผมเตือน
" ในสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊ก มีอะไรให้ตื่นเต้นอยู่ตลอด..เดี๋ยวคนโน้นโพสต์เรื่องแปลก ๆ คนนี้อวดภาพไปเที่ยว ภาพได้รางวัล อวดความสำเร็จในหน้าที่การงาน หรืออะไรต่ออะไรที่เอามาอวดกันได้...แต่..กู..ไม่มีอะไรไปอวดเขาหรอก ร้อยวันพันปีกูแทบจะไม่โพสต์เรื่องอะไรเข้าไปเลย มีแต่อ่านของคนอื่น .."    เพื่อนพร่ามซะยาว

"มึงคิดมากไป ก็ดีแล้วที่อ่านของคนอื่น กูก็เหมือนกัน อ่านอย่างเดียว เอาไว้ประดับความรู้ จะได้รู้เรื่องที่เราไม่เคยเจอไง.."   ผมช่วยเสริม

" แต่เมียกูเขาเป็นคนเก่ง...คนเก่งก็อยากจะอยู่ร่วมกับสังคมคนเก่งด้วยกันมั้ง..เขาคงเริ่มเบื่อคนอย่างกูแล้ว..ในสังคมอย่างนั้น มีคนเก่งให้เลือกคบเยอะแยะไป.. กูอ่านของแต่ละคนแล้ว ยังอิจฉาพวกเขาเลย.."   เพื่อนบ่นต่อ

" มันเป็นเรื่องปกติ..สังคมของใครก็ของมัน ..คนประเภทเดียวกันมักจะไปเจอกันในสักวัน..เขาก็หากันจนเจอ..ไม่ได้เจอกันในสังคมข้างนอก ก็จะไปเจอกันเฟสบุ๊ก.."     ผมเสริมต่อความคิดเพื่อน เพราะน่าเห็นใจมัน

" กูว่าจะพูดกับเมียอีกที..ว่าให้อยู่กับโลกแห่งความจริง เพราะแต่งงานกันแล้ว ต้องดำเนินชีวิตปัจจุบัน..จะไปหวังอะไรจากเฟสบุ๊ก..เอาไว้ผ่อนคลายได้ แต่อย่าไปจริงจัง....แต่ไม่รู้เขาจะฟังกูรึเปล่า.."    เพื่อนเริ่มผ่อนคลายลง

" ถ้าให้เหตุผล..คนมีการศึกษาอย่างพวกมึง..คงคิดกันได้  ตอนเรียน  ยากกว่านี้ตั้งหลายเท่ายังเข้าใจได้เลย.."      ผมช่วยเสริมอีกแรง

"แต่..ช่วงนี้เมียกูคุยอยู่กับเพื่อนในเฟสบุ๊กมากกว่ากูอีก..อะไร ๆ ก็เอาไปโพสต์หมดเลย ปวดหัวนิดหน่อย เพื่อนในนั้นก็รู้ก่อนกูซะอีก..เขามาบอกทีหลังด้วยซ้ำไป..แค่ทำกับข้าวกินกันที่บ้าน ยังถ่ายรูปโพสต์ลงให้เพื่อนดูเลย"    เพื่อนยังบ่นต่อ

"ก็นิสัยผู้หญิง..มึงอย่าคิดมาก.."   

"กูเคยโดนประจานในเฟสบุ๊กมาแล้ว..เมียนี่แหละ..เอาเรื่องที่กูทะเลาะกันไปโพสต์..แต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อกูตรง ๆ ..แต่ใครที่ไหนที่ได้อ่านยิ่งเป็นเพื่อนกัน เขาก็มองมาที่กูนั่นล่ะ..กลายเป็นคนไม่ดีในสายตาพวกนั้นมาแล้ว"      เพื่อนเผยเรื่องราว

"กูไม่เห็นจะได้ข่าว"    ผมช่วยเพื่อน ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

"ก็เพราะกูสั่งให้เมียลบข้อความนั้นออกไปไง..ไม่งั้นมึงอาจจะได้อ่านก็ได้....มันแย่นะ...มันหนักกว่าพวกปากหมานินทาชาวบ้านซะอีก..เพราะในนี้เขียนไว้เสร็จ..ใครอยากรู้ก็เข้ามาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ มันจารึกเอาไว้ยังกะจดหมายเหตุกรุงศรีเลย..แต่พวกปากมากแค่นินทาเสร็จ คำพูดมันก็หายไป เดี๋ยวคนก็ลืม..แต่นี่ยังอยู่ ถ้าคนเขียนไม่ไปลบออกซะเอง"     เพื่อนเริ่มลงลึกเข้าไปอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น