" น่าคิด..ดูแปลกมาก ถ้าที่เล่ามาเป็นความจริง มีความเป็นไปได้ว่าแฟนมึ งสนใจคนนั้นจริง.."
" ไม่อยากคิดมากไปกว่านี้ ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ ว่าจะมาใจแตกเอาตอนอายุเท่านี้ ตอนสาว ๆ ไม่เห็นจะเป็นอย่างนี้เลย..หรื อว่ากูไม่ดีจริง ๆ วะ." เพื่อนบ่นน้อยใจ
" ไม่ใช่หรอก ก็เห็นพวกมึงก็รักกันดีจะตาย อาจจะไม่มีอะไรอย่างที่คิดก็ได้ ..มึงอย่าตีโพยตีพายไปมากสิ.." ผมเตือน
" ในสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊ก มีอะไรให้ตื่นเต้นอยู่ตลอด..เดี ๋ยวคนโน้นโพสต์เรื่องแปลก ๆ คนนี้อวดภาพไปเที่ยว ภาพได้รางวัล อวดความสำเร็จในหน้าที่การงาน หรืออะไรต่ออะไรที่เอามาอวดกั นได้...แต่..กู..ไม่มี อะไรไปอวดเขาหรอก ร้อยวันพันปีกูแทบจะไม่โพสต์เรื ่องอะไรเข้าไปเลย มีแต่อ่านของคนอื่น .." เพื่อนพร่ามซะยาว
"มึงคิดมากไป ก็ดีแล้วที่อ่านของคนอื่น กูก็เหมือนกัน อ่านอย่างเดียว เอาไว้ประดับความรู้ จะได้รู้เรื่องที่เราไม่ เคยเจอไง.." ผมช่วยเสริม
" แต่เมียกูเขาเป็นคนเก่ง...คนเก่ งก็อยากจะอยู่ร่วมกับสังคมคนเก่ งด้วยกันมั้ง..เขาคงเริ่มเบื่ อคนอย่างกูแล้ว..ในสังคมอย่างนั ้น มีคนเก่งให้เลือกคบเยอะแยะไป.. กูอ่านของแต่ละคนแล้ว ยังอิจฉาพวกเขาเลย.." เพื่อนบ่นต่อ
" มันเป็นเรื่องปกติ..สั งคมของใครก็ของมัน ..คนประเภทเดียวกันมักจะไปเจอกั นในสักวัน..เขาก็หากันจนเจอ.. ไม่ได้เจอกันในสังคมข้างนอก ก็จะไปเจอกันเฟสบุ๊ก.." ผมเสริมต่อความคิดเพื่อน เพราะน่าเห็นใจมัน
" กูว่าจะพูดกับเมียอีกที..ว่าให้ อยู่กับโลกแห่งความจริง เพราะแต่งงานกันแล้ว ต้องดำเนินชีวิตปัจจุบัน.. จะไปหวังอะไรจากเฟสบุ๊ก..เอาไว้ ผ่อนคลายได้ แต่อย่าไปจริงจัง....แต่ไม่รู้ เขาจะฟังกูรึเปล่า.." เพื่อนเริ่มผ่อนคลายลง
" ถ้าให้เหตุผล..คนมีการศึกษาอย่ างพวกมึง..คงคิดกันได้ ตอนเรียน ยากกว่านี้ตั้งหลายเท่ายังเข้ าใจได้เลย.." ผมช่วยเสริมอีกแรง
"แต่..ช่วงนี้เมียกูคุยอยู่กั บเพื่อนในเฟสบุ๊กมากกว่ากูอีก.. อะไร ๆ ก็เอาไปโพสต์หมดเลย ปวดหัวนิดหน่อย เพื่อนในนั้นก็รู้ก่อนกูซะอีก.. เขามาบอกทีหลังด้วยซ้ำไป..แค่ ทำกับข้าวกินกันที่บ้าน ยังถ่ายรูปโพสต์ลงให้เพื่อนดู เลย" เพื่อนยังบ่นต่อ
"ก็นิสัยผู้หญิง..มึงอย่าคิ ดมาก.."
"กูเคยโดนประจานในเฟสบุ๊กมาแล้ ว..เมียนี่แหละ..เอาเรื่องที่กู ทะเลาะกันไปโพสต์..แต่ก็ไม่ได้ เอ่ยชื่อกูตรง ๆ ..แต่ใครที่ไหนที่ได้อ่านยิ่ งเป็นเพื่อนกัน เขาก็มองมาที่กูนั่นล่ะ.. กลายเป็นคนไม่ดีในสายตาพวกนั้ นมาแล้ว" เพื่อนเผยเรื่องราว
"กูไม่เห็นจะได้ข่าว" ผมช่วยเพื่อน ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
"ก็เพราะกูสั่งให้เมียลบข้ อความนั้นออกไปไง..ไม่งั้นมึ งอาจจะได้อ่านก็ได้....มันแย่ นะ...มันหนักกว่าพวกปากหมานิ นทาชาวบ้านซะอีก..เพราะในนี้เขี ยนไว้เสร็จ..ใครอยากรู้ก็เข้ ามาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ มันจารึกเอาไว้ยังกะจดหมายเหตุ กรุงศรีเลย..แต่พวกปากมากแค่นิ นทาเสร็จ คำพูดมันก็หายไป เดี๋ยวคนก็ลืม..แต่นี่ยังอยู่ ถ้าคนเขียนไม่ไปลบออกซะเอง" เพื่อนเริ่มลงลึกเข้าไปอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น