คิดว่าจะเลือกแบบไหน
การจัดเรียงสินค้า และการกำหนดราคาสินค้าในชั้นวางสินค้าัอันเดียวกัน แน่นอนว่าต้องเป็นสินค้าชนิดเดียวกัน จัดวางเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่สิ่งทีีจะดึงดูดลูกค้าเข้าไปหยิบเอาไป คงจะเป็นเรื่องของ บรรจุภัณฑ์ และตามมาด้วย ราคา ที่จะเป็นตัดสินในรอบ final
ผมเองก็เป็นเพียงผู้บริโภคคนหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ อย่างเซเว่นฯ ไกล้บ้าน อยากกินขนม ที่ไ่ม่ใช่สินค้าจากโรงงาน แต่ขอเป็นแบบแฮนด์เมด หรือทำกันในครัวเรือน ไปเดินดูที่ชั้นวาง เห็นความหลากหลายของสินค้ากลุ่มนี้ มีหลายชนิด และจากหลายผู้ผลิต ไม่แพ้ขนมจากโรงงานใหญ่ ๆ เลย
แต่สิ่งหนึ่งที่ดูจะด้อยกว่า คือ ภาพของบรรจุภัณฑ์ แน่นอนว่าสู้สินค้าแบบอุตสาหกรรมไม่ได้ แต่เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญนะ ที่จะต้องมีการปรับปรุงกันอีกเยอะ
จากตัวอย่างสินค้าที่ผมซื้อมาในภาพทั้งสองแบบ ที่จริงอยากซื้อแค่อันใดอันหนึ่งแค่นั้นเอง แต่มันแว็บ..เข้ามาในหัวว่าน่าจะเป็นข้อมูลเขียนอะไรได้
ความประทับใจแรกที่สายตากวาดไปเห็น คือเรื่องของบรรจุภัณฑ์ ดัวทางขวามือ สวยงาม ดูทันสมัย และน่าหยิบจับขึ้นมาดู เพราะคิดว่าคงจะมาจากบริษัท หรือร้านใหญ่ ๆ ที่กล้าลงทุน หรือมีการผลิตแบบเยอะ ๆ ส่วนทางซ้ายมือ ไม่ต้องคิดอะไรมาก คงจะมาจากกลุ่มแม่บ้าน หรือผลิตรายเล็ก ๆ ในพื้นที่ไกล้ ๆที่นำสินค้ามาฝากขาย การตัดสินใจแรกคือเลือกที่จะให้ความสนใจกับอันทางขวามือ เพราะดูจากรูปร่างหน้าตาภายนอก
ตัวตัดสินที่สอง คือชนิดของสินค้า ที่อยู่ด้านใน ทางซ้ายมือไม่ต้องหยิบขึ้นมาดูก็รู้ว่าคืออะไร ก็เลยรู้สึกเฉย ๆ แต่ก็ยังอยากกินอยู่ ส่วนทางขวามือ เกิดความสงสัย เอ๊ะอะไรอยู่ในนั้น หน้าตาขนมเป็นยังไง ก็เลยอ่านดูทั้งฉลาก และสอดส่องด้านใน อ๋อ ขนมปังไส้สับปะรด ผลิตด้วยกลุ่มผลิต ไม่ใช่ของโรงงานหรือห้างร้านใหญ่ ๆ
ตัวตัดสินสุดท้ายที่ทำให้พอใจกับตัวสินค้า คือ ราคา ไม่น่าเชื่อว่าสินค้าทางขวามือที่ดูสวยงามทั้งบรรจุภัณฑ์ ตัวขนมด้านในจะมีราคาที่ถูกกว่าอย่างชัดเจน ตอนแรกคิดว่าอัีนทางซ้ายถุงใส ๆ นั้นจะถูกกว่า เพราะเห็นเขาทำง่าย ๆ ไม่มีอะไรมาก ใคร ๆ ก็ทำกันได้ หาถุงพลาสติกใสมาใส่ แปะฉลาดด้านบนนิดหน่อยด้วยลวดเ่ย็บกระดาษ (แม็ก)
ก็เลยตัดสินใจที่จะเลือกเอาขนมชิ้นทางขวาที่ดูดีทุกอย่าง แม้กระทั่งราคา ก็เป็นที่น่าพอใจ ส่วนอันทางซ้าย ก็ซื้อติดมาด้วย จะได้เอามาถ่ายรูป
ไม่ได้เก่งเรื่องการตลาด หรือการบริหารจัดการร้านค้าหรอกครับ แต่นำเสนอเพราะตัดสินด้วยอารมณ์ความรู้สึกของตนเองจริง ๆ จึงอยากสะท้อนให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี (sme) ทั้งหลายได้คิดวิเคราะห์สินค้าของตนเอง และของคู่แข่งสักนิด ก่อนจะนำออกมาจำหน่าย เพื่อความได้เปรียบทางการตลาดในภายภาคหน้าครับ
ผมเองก็เป็นเพียงผู้บริโภคคนหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ อย่างเซเว่นฯ ไกล้บ้าน อยากกินขนม ที่ไ่ม่ใช่สินค้าจากโรงงาน แต่ขอเป็นแบบแฮนด์เมด หรือทำกันในครัวเรือน ไปเดินดูที่ชั้นวาง เห็นความหลากหลายของสินค้ากลุ่มนี้ มีหลายชนิด และจากหลายผู้ผลิต ไม่แพ้ขนมจากโรงงานใหญ่ ๆ เลย
แต่สิ่งหนึ่งที่ดูจะด้อยกว่า คือ ภาพของบรรจุภัณฑ์ แน่นอนว่าสู้สินค้าแบบอุตสาหกรรมไม่ได้ แต่เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญนะ ที่จะต้องมีการปรับปรุงกันอีกเยอะ
จากตัวอย่างสินค้าที่ผมซื้อมาในภาพทั้งสองแบบ ที่จริงอยากซื้อแค่อันใดอันหนึ่งแค่นั้นเอง แต่มันแว็บ..เข้ามาในหัวว่าน่าจะเป็นข้อมูลเขียนอะไรได้
ความประทับใจแรกที่สายตากวาดไปเห็น คือเรื่องของบรรจุภัณฑ์ ดัวทางขวามือ สวยงาม ดูทันสมัย และน่าหยิบจับขึ้นมาดู เพราะคิดว่าคงจะมาจากบริษัท หรือร้านใหญ่ ๆ ที่กล้าลงทุน หรือมีการผลิตแบบเยอะ ๆ ส่วนทางซ้ายมือ ไม่ต้องคิดอะไรมาก คงจะมาจากกลุ่มแม่บ้าน หรือผลิตรายเล็ก ๆ ในพื้นที่ไกล้ ๆที่นำสินค้ามาฝากขาย การตัดสินใจแรกคือเลือกที่จะให้ความสนใจกับอันทางขวามือ เพราะดูจากรูปร่างหน้าตาภายนอก
ตัวตัดสินที่สอง คือชนิดของสินค้า ที่อยู่ด้านใน ทางซ้ายมือไม่ต้องหยิบขึ้นมาดูก็รู้ว่าคืออะไร ก็เลยรู้สึกเฉย ๆ แต่ก็ยังอยากกินอยู่ ส่วนทางขวามือ เกิดความสงสัย เอ๊ะอะไรอยู่ในนั้น หน้าตาขนมเป็นยังไง ก็เลยอ่านดูทั้งฉลาก และสอดส่องด้านใน อ๋อ ขนมปังไส้สับปะรด ผลิตด้วยกลุ่มผลิต ไม่ใช่ของโรงงานหรือห้างร้านใหญ่ ๆ
ตัวตัดสินสุดท้ายที่ทำให้พอใจกับตัวสินค้า คือ ราคา ไม่น่าเชื่อว่าสินค้าทางขวามือที่ดูสวยงามทั้งบรรจุภัณฑ์ ตัวขนมด้านในจะมีราคาที่ถูกกว่าอย่างชัดเจน ตอนแรกคิดว่าอัีนทางซ้ายถุงใส ๆ นั้นจะถูกกว่า เพราะเห็นเขาทำง่าย ๆ ไม่มีอะไรมาก ใคร ๆ ก็ทำกันได้ หาถุงพลาสติกใสมาใส่ แปะฉลาดด้านบนนิดหน่อยด้วยลวดเ่ย็บกระดาษ (แม็ก)
ก็เลยตัดสินใจที่จะเลือกเอาขนมชิ้นทางขวาที่ดูดีทุกอย่าง แม้กระทั่งราคา ก็เป็นที่น่าพอใจ ส่วนอันทางซ้าย ก็ซื้อติดมาด้วย จะได้เอามาถ่ายรูป
ไม่ได้เก่งเรื่องการตลาด หรือการบริหารจัดการร้านค้าหรอกครับ แต่นำเสนอเพราะตัดสินด้วยอารมณ์ความรู้สึกของตนเองจริง ๆ จึงอยากสะท้อนให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี (sme) ทั้งหลายได้คิดวิเคราะห์สินค้าของตนเอง และของคู่แข่งสักนิด ก่อนจะนำออกมาจำหน่าย เพื่อความได้เปรียบทางการตลาดในภายภาคหน้าครับ
.............
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น