ฝนตกแปะ ๆ ตอนเช้า แนน นั่งทอดสายตาอย่างเอื่อยชาไปนอกประตูหน้าบ้าน เม็ดฝนหล่นมาจากฟ้าตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ยอดหยุดสักที นี่ก็ปาเข้าไปเจ็ดโมงเช้าแล้ว แต่งเนื้อแต่งตัวเสร็จแล้ว ไม่รู้ว่าจะออกไปทำงานได้ยังไง ฝนก็ตก รถยนต์ก็ไม่มี จะขี่มอเตอร์ไซด์ไปที่ทำงานได้ยังไงกันหว่า จะออกไปรอรถโดยสารปากซอยก็ไม่มีที่ให้ยืนหลบฝน คิดแล้วขี้เกียจสิ้นดี
ข่าวในทีวีเมืองไทยตอนเช้า ๆ มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ นั่งดูอยู่ตั้งนานแล้ว เห็นแต่นักข่าวไปเดินลุยในพื้นที่น้ำท่วมแถวภาคกลาง เมื่อวันก่อนก็ทีอยุทธยา วันนี้ก็ที่กุรงเทพ นี่มันจะหนึ่งเดือนเต็มแล้วนะ ทางโน้นฝนก็หยุดตกแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมน้ำยังไหลไม่ยอมลงทะเลสักที พูดกันจังไอ้เรื่องพนังกั้นน้ำ ที่โน่่น ที่นี่ ที่นั่น พังแล้ว ต้านไม่อยู่ พังลง สองเมตร สามเมตร ยี่สิบเมตร น้ำไหลทะลักเข้าหมู่บ้าน เข้าหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้
ทำไม น้ำท่วมอย่างนี้คิดจะอยู่สบายกันแค่หมู่บ้านเดียวหน่วยงานเดียวกันหรืออย่างไรน้อ แนนนั่งบ่นพึมพำ ให้น้ำไหลนองให้ทั่ว มันจะได้มีที่ไป เดี๋ยวมันก็ไหลหมดไปเอง มันมีขังอยู่บ้างก็ที่ลุ่มต่ำจริง ๆ ยังไงน้ำก็ต้องไหลจากที่สูงกว่าไปหาที่ต่ำ นี่เล่นเอากระสอบทรายขุดดินไปปิดทางน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลที่ต่ำกว่า มันฝืนธรรมชาติชัด ๆ
"เบื่อว่ะ" แนนบ่นออกมาก เพราะในใจเขาคิดว่า นี่มันเรื่องธรรมชาติ จะไปฝืนธรรมชาติได้ไง เบื่อที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกมาบอกปาว ๆ ว่าเราวางแผนไว้หมดแล้ว จะต้องดันน้ำไปทางโน้น ไม่ให้ไหลเข้าเมืองจุดโน้นจุดนี้ แต่สุดท้ายแล้วไงล่ะ ข่าวออกมา น้ำเข้าท่วมได้ทุกที่ที่เขาไม่ให้ท่วม มันทำไม่ไ้ด้หรอก ทางที่ดี ควรบอกให้ประชาชนเตรียมตัวรับน้ำท่วมมากกว่า ดีกว่าการออกมาสร้้างที่กั้นน้ำ ให้เขาเตรียมตัวขนข้าวของอยู่ที่สูง เตรียมจัดหาปัจจัยในการดำรงชีพช่วงน้ำท่วม และหน่วยงานรัฐก็ควรเตรียมการในเรื่องการช่วยเหลือประชาชนในยามน้ำท่วมดีกว่า เตรียมงบในการเยียวยา งบแก้ปัญหาขณะน้ำท่วม และงบเยียวยาหลังน้ำท่วม เตรียมให้พร้อมทั้งงบ คน และสิ่งของสำหรับการช่วยเหลืิอ มัวแต่มุ่งประเด็นไปในเรื่องทำคันกั้นน้ำ ดูแล้วช่วยอะไรได้ไม่มาก
แต่เรื่องการวางแผนการทำงานของหน่วยงานรัฐไม่ไ้้ด้มีอะไรจะสะกิดใจเขาเท่ากัีบภาพความยากแค้นของชาวบ้านที่โดนน้ำท่วม ลำบากหนักหนา ไม่มีที่จะนอน อาหารจะกินก็หายาก มีเงินแต่ไม่มีที่จะซื้อ เพราะจังหวะอย่างนี้ข้าวของจะเอาไปขายในพื้นที่แทบจะไม่มีเลยทีเดียว เห็นแต่ภาพการนำข้าวของไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเท่านั้นที่มีอยู่ทุกวัน ในสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะทางโทรทัศน์ ที่ออกข่าวเยอะ ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภาคเอกชน ดารา ประชาชน แต่ที่เห็นบางตาหน่อยคือภาพของหน่วยงานรัฐที่เอาข้าวของไปแจก แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้เลยว่า เราเองไม่ไ้ด้มีโอกาสไปช่วยยังสถานที่แห่งนั้น เพราะไม่มีโอกาสได้ไปเลย ด้วยระยะทางที่ห่างไกลกันคนละภาค และด้วยภาระที่ตนเองรับผิดชอบอยู่งานที่ทำ และเรื่องที่บ้านก็ยุ่งจนแทบจะไม่มีเวลาไปไหน
"เป็นดารานี่ก็เหนื่อยดีเหมือนกันนะ ตอนทำงานก็เหนื่อยแล้วไม่พอ ตอนเพื่อนลำบากก็ต้องไปช่วยเขาอีก" แนนคิดอยู่ในใจ
เพราะเขาเห็นว่าที่ออกข่าวทางทีวี โดยเฉพาะช่องที่ฟรีทีวีทั้งหลาย เห็นแต่ดารานักแสดงหรือคนดัง ๆ ในสังคมบันเทิงที่ไปยืน เดินลุยน้ำแจกข้าวแจกของ ขับรถไปจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ บางคนไปด้วยความขยันขันแข็ง ไปด้วยงบเงินของตัวเองซื้อข้าวของไปมอบให้กับชาวบ้าน แต่อีกหลาย ๆ คนก็ไปกับองค์กรหน่วยงานต่าง ๆ หรือหน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่ ตอนน้ำท่วมช่วงแรก ๆ ก็เห็นออกข่าวอยู่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่จะเป็นที่คนที่สนิทกับนักข่าวของแต่ละช่อง แต่ช่วงหลัง ๆ นี่ไปกันเยอะมากจนแทบจะเป็นเรื่องธรรมดา และแนนเองก็ไม่อยากจำเท่าไรว่ามีใครบ้างที่ไปมอบของ หรือว่าช่วงหลังนี่เป็นวิธีที่เหล่าคนดังจะเรียกคะแนนเรตติ้ง ขอให้ได้ออกสื่อไว้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน ก็เห็นดาราบางคนไปเดินลุยน้ำแค่หน้าแข้ง ยังอุตส่าห์ไปหาชุดลุยน้ำแบบแฟชั่นแหวกแนวมาสวมใส่กันเลย แค่รองเท้าบู้ทที่ใส่ ยังเป็นของแบรนด์เนม แพง ๆ เลย ยังไงก็ต้องไว้ลายการเป็นดาราคนดังกับเขาอยู่ดี
นั่งอยู่ได้ไม่นานนัก แนนก็เหลือบไปมองนาฬิกาที่ผนังบ้าน "โอ้ย..จะแปดโมงแล้ว ต้องรีบไปทำงานแล้ว" แล้วแนนก็คว้าเสื้อยางกันฝน หยิบกุญแจมอเตอร์ไซด์ แล้วออกเดินทางไปทำงานทั้ง ๆ ที่ไม่อยากไปสักเท่าไหร่ "ไปนั่งที่ทำงานดีกว่านั่งเบื่ออยู่ที่บ้าน" แนนบอกกับตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น