ลองเชื่อใจประกันอีกสักครั้ง

ผมทำประกันชีวิตแบบออมเงินกับบริษัทประกันไว้บริษัทหนึ่ง นานหลายปีมาแล้ว ส่งมาเรื่อย ๆ เพราะตอนแรกพนักงานขายประกันเป็นญาติกัน ก็
ยอมซื้อไว้เพราะเกรงใจและอยากมีอะไรเป็นหลักไว้สักอย่างในชีวิต ส่งเงินครบแล้วจะได้มีเงินออมติดตัวไว้บ้างถ้าหากไม่เกิดเหตุอะไรเสียก่อน แต่แล้วญาติเราก็ล้มเลิกการเป็นพนักงานขายประกัน การส่งเงินเข้าบริษัทที่ทำอยู่เป็นประจำโดยญาติของเราก็เป็นอันต้องมาทุลักทุเล เพราะก่อนหน้านี้เขามาเก็บเงินที่บ้านแล้วจัดการแทนเราทุกอย่าง แต่พอเขาไม่ทำเป็นอันว่าต้องไปส่งเองที่บริษัท ก็ส่งอยู่ได้สักพักล่ะครับ 2-3 ปีได้มั้งที่ทำเอง แล้วก็เกิดอาการเบื่อหน่ายกับบริษัทนี้แล้ว เพราะช่วงก่อนหน้านี้ เวลาจะส่งเงินให้บริษัทต้องกลับมาสาขาที่เราไปทำประกันไว้ แต่ตัวผมเองทำงานอยู่ต่างจังหวัด แม้จังหวัดที่ผมทำงานก็มีสาขาของบริษัทประกันนี้อยู่ด้วย แต่เขาบอกว่าจ่ายกับต่างสาขาไม่ได้ ก็เลยต้องกลับบ้าน ขับรถมาหลายร้อยกิโลฯ ทำให้เราเกิดความระอาใจ อยู่ ๆ ผมก็เลิกส่งไปซะเฉย ๆ ไม่ได้ไปสนใจมันอีกเลย แม้จะมีจดหมายจากบริษัทประกันเรียกเก็บเงินเมื่อถึงงวดต้องจ่ายก็ตาม ไม่ไป ไม่จ่าย ไม่สน

ทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าเราไม่จ่ายเบี้ยประกันให้เขาติดต่อกันหลายเดือน แทนที่บริษัทประกันจะส่งพนักงานมาที่บ้านเราหรือติดต่อมาหา ก็ไม่มี หรือแม้แต่ตอนที่ญาติผมลาออกจากการเป็นพนักงาน ก็ไม่เคยมีพนักงานคนอื่นจะทำงานแทนสักคน ไม่เคยมาหาที่บ้าน หรือไม่เคยเข้ามาบอกว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ผมตัดสินใจทิ้งเงินก้อนที่ฝากไว้กับบริษัทประกันไปเฉย ๆ เพราะไม่ทราบเงื่อนไข และไม่ได้สนในเพราะมองภาพไม่ดีกับบริษัทนี้ไปแล้ว

เวลาผ่านไปประมาณ ปีกว่า หลังจากที่ผมไม่เคยส่งเงินค่าเบี้ยประกันเลย อยู่ ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทดังกล่าวเข้ามาหา (เขาบอกว่าเป็นผู้จัดการ) แต่ไม่มีแม้แต่นามบัตร ไม่ทราบชื่อจริง บอกแต่ชื่อเล่น เข้ามาที่บ้าน พร้อมกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเครื่องหนึ่ง เขาบอกว่าก่อนหน้านี้ทำไมผมไม่ทำเรื่องเอาเิงินที่ส่งเป็นค่าเบี้ยประกันคืนล่ะ ผมก็อ้าว..เลยล่ะครับ แล้วมันสามารถเอาคืนได้ด้วยเหรอ ไม่รู้มาก่อนว่าส่งไม่ครบตามจำนวนปีที่ตกลงกันไว้สามารถรับเงินคืนได้ ก็บ่นไปเรื่อย ๆ ให้เขาฟัง ว่า..ทำไมตัวแทนคนก่อนไม่บอก แล้วก่อนหน้านี้ทางบิรษัทก็ไม่ได้ชี้แจงให้ทราบเลย มาบอกตอนนี้มันเลยเงื่อนไขมาแล้ว เขาบอกว่าต้องไม่ส่งเบี้ยประกันมาไม่เกิน 1 ปีจึงสามารถรับเิิงินคืนได้ แต่ของผมมันนานมากกว่า 1 ปีแล้วที่ไม่ส่งก็รับคืนไม่ได้ หมดสิทธิ์..

แล้วมาทำไม..เขาก็ยกคอมฯโน้ตบุ๊กขึ้นมา พร้อมกับเริ่มอธิบาย ให้ผมเอาเงินที่เคยส่งไว้นั้นมาำทำประกันเแบบประกันอุบัติเหตุแทน โดยที่ผมไม่ต้องเอาเงินข้างนอกมาจ่ายเพิ่มอีก เริ่มต้นคือเอาเงินมีอยู่แล้วส่งให้ผมเป็นเบี้ยประกัน ส่งไปเรื่อย ๆจนเงินนั้นหมด แล้วผมก็ต้องจ่ายเองต่อไป จะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้เพราะเป็นประกันแบบปีต่อปี  คิดไปคิดมามันก็ดีกว่าทิ้งเงินไว้เฉย ๆ ไหน ๆ ก็ไม่ได้เงินคืนแล้ว ดีเสียอีกเราไม่ต้องควักเงินก้อนใหม่ไปจ่ายแค่ขุดเอาของเดิมไปจ่ายแทนก็หมดเรื่อง

ถ้าตกลงก็ต้องเซ็นต์สัญญากันใหม่ เขาบอกอย่างนั้น ขอสำเนาเอกสารต่าง ๆด้วย และก็ตัวกรมธรรม์ตัวเก่าด้วย เขาจะเอาไปคืนบริษัท ไม่กี่วันก็ได้ตัวใหม่ออกมาแล้วพร้อมบัตรประจำตัวผู้ประกัน เขาก็ให้ผมเซ็นต์เอกสารอีกหลายหน้า แต่ไม่ได้กรอกข้อมูลอะไรเลย เขาบอกว่าจะกรอกให้เอง อ่านก็ไม่ละเอียดมากนักเพราะหลายหน้าตัวหนังสือเยอะแยะไปหมด..เซ็นต์ก็เซ็นต์..ไม่รู้เป็นใบอะไรบ้าง..แต่ที่รู้มอบเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้เขาไปหมดแล้ว ..พอเขาได้เอกสารครบ เขาก็บอกว่าต้องรีบไปหาคนอื่นๆ อีกที่เป็นเหมือนกับผมนี่ล่ะ จะไปบอกเขาว่าให้เปลี่ยนรูปแบบประกัน ขอตัวก่อน..ยกมือไหว้แล้วก็สตาร์ทรถขับจากไป

ผมยืนงง..ยังไม่เข้าใจรายละเอียดมากนักหรอก แต่ที่สำคัญ ..ใครกันที่เข้ามาเก็บเอกสารเราไป.. นามบัตรก็ไม่มี บัตรประจำตัวพนักงานก็ไม่เห็น บอกแค่เพียงเป็นตัวแทนจากบริษัทประกัน.. แล้วเราจะเชื่อเขาได้ไหมเนี่ย กลัวเขาเอาลายเซ็นต์เราไปเบิกเงินออกมาจากบริษัทแล้วเอาเข้ากระเป๋าตัวเองจังเลย..อย่างนี้สิมันน่าเสียดายกว่าการเพิ่งมารู้ว่้าเอาเงินคืนได้แม้ส่งไม่ครบกำหนดนะ..กลัวเขาคิดไม่ซื่อ ไม่แน่เขาอาจจะเป็นพนักงานเก่าของบริษัทนี้ก็ได้ มีรายละเอียดอยู่ในมือแล้วเดินหาลูกค้าเก่าอย่างเรา เงินไม่ใช่น้อย ๆ นะ ถ้าเขาได้หลาย ๆ คน ก็รวยได้เลยนะ..คิดไปต่างๆ นานา..ไม่เลย..ไม่น่าสะเพร่าอย่างนี้..กรมธรรม์ก็มอบให้เขาไปแล้ว พร้อมลายเซ็นต์และสำเนาเอกสารส่วนตัวเพียบ..เสร็จแน่งานนี้

เขาบอกว่าไม่กี่วันผมจะได้กรมธรรม์ตัวใหม่พร้อมบัตร แต่ผมรอเป็นเดือนยังไม่เห็นมา..ใจหายเลยครับ..คิดว่าโดนแน่แล้วชัวร์..เขาเอาเงินเราไปหมดแล้ว..เข้าไปแจ้งในบริษัทก็จำืชื่อเขาไม่ได้ จำเลขกรมธรรม์เิดิมก็ไม่ได้ แม้แต่ชื่อเล่นพนักงานคนนั้นยังลืมไปเลย..จำได้แต่สีรถ แล้วมันจะช่วยได้ไหมเนี่ย..ก็เลยนั่งทำใจครับ..ถ้าเขาไม่มาเงินเราก็ไม่ได้คืนเพราะไม่ได้ไปทำเรื่อง..พอเขามาเงินก็หายไปเลย คิดว่าคงได้เขาไปแล้วแน่นอน..สุดแสนเสียดาย